รวบแล้ว! ผัวเลือดร้อน จุดไฟเผาเมียปางตาย เผยรู้สึกห่วงมาก เลยไปเยี่ยม

รวบแล้ว! ผัวเลือดร้อน จุดไฟเผาเมียปางตาย เผยรู้สึกห่วงมาก เลยไปเยี่ยม

รวบแล้ว! ผัวเลือดร้อน จุดไฟเผาเมียปางตาย เผยรู้สึกห่วงมาก เลยไปเยี่ยม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่ เมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุสามีใช้น้ำมันราดตัวภรรยา ก่อนจุดไฟเผา ที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ไม่มีชื่อ บ้านหัวขัว ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม นั้น

ล่าสุด วันนี้ (5 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย ชุดสืบสวน สภ.กันทรวิชัย แถลงผลการจับกุมสามีโหดก่อคดีใช้ทินเนอร์ราดและจุดไฟเผาภรรยา ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดย พ.ต.ต.ถาวร ยอดยรรยง สารวัตรสืบสวน สภ.กันทรวิชัย พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.กันทรวิชัย แถลงผลการจับกุม นายสมหวัง เจียมบรรจง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/2 หมู่ 20 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

หลังก่อเหตุใช้ทินเนอร์ราดใส่ตัว นางมุกดาหาร (ขอสงวนนามสกุล) ภรรยา ก่อนที่จะใช้ไฟแช็คจุดไฟเผา หลังจากทีปากเสียงกันอย่างรุนแรง โดยเหตุเกิดที่บริเวณ หน้าร้านเฟอร์นิเจอร์ไม่มีชื่อแห่งหนึ่ง ที่บ้านหัวขัว ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ก่อนที่จะหลบหนีไป

ชุดสืบสวน สภ.กันทรวิชัยได้แบ่งกำลังออกเป็นสองชุด คือชุดแรกลงพื้นที่ติดตามที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ส่วนชุดที่ 2 ได้ติดตามที่บ้านเกิดใน ต.ท่าพระ จ.ขอนแก่น โดยทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ให้ข่าวว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมานายสมหวัง ได้เดินทางมาเยี่ยมนางมุกดาหาร ที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น

จากนั้น จึงได้ให้ชุดสืบสวนติดตามไปที่ รพ. ก่อนที่จะให้ผู้เสียหายชี้ตัวว่า นายสมหวังเป็นผู้ก่อเหตุจริง จึงได้ควบคุมตัวนายสมหวังไว้ ซึ่งนายสมหวัง ได้ซื้อนมเปรี้ยวมาฝากภรรยาด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้นายสมหวังและนางมุกดาหารได้พูดคุยกันเล็กน้อย จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.กันทรวิชัย

ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุเกิดจาก นายสมหวัง สงสัยว่า นางมุกดาหาร จะมีชายอื่นมาติดพัน จึงได้พูดคุยกัน แต่เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จึงเกิดบันดาลโทสะ นำทินเนอร์ที่ถือติดมือมาเพื่อที่จะมาเผาหญ้า ราดใส่ตัวนางมุกดาหาร และจุดไฟเผา ก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งระหว่างที่หลบหนี รู้สึกเป็นห่วงภรรยา จึงได้เดินทางกลับมาเยี่ยมภรรยาที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตามรวบตัวได้ในที่สุด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญ มาตรา 290 ซึ่งมีโทษจำคุก 3-15 ปี อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลจากการสอบปากคำพยาน แพทย์ และผู้เสียหายเพิ่มเติม หากพบว่ามีพฤติกรรมที่ร้ายแรง ก็จะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook