ตร.เร่งสรุปสำนวนคดีฆ่า 2 นทท. สื่ออังกฤษยังแคลงใจ

ตร.เร่งสรุปสำนวนคดีฆ่า 2 นทท. สื่ออังกฤษยังแคลงใจ

ตร.เร่งสรุปสำนวนคดีฆ่า 2 นทท. สื่ออังกฤษยังแคลงใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ได้ร่วมประชุมกันอย่างเคร่งเครียด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะส่งให้อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่จับกุมเอาไว้แล้ว ขณะที่สื่อประเทศอังกฤษและสังคมออนไลน์ยังคงตั้งข้อสงสัยหลายประเด็นเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ส่วนโพลสำรวจชื่อดังพบว่า คนไทยยังไม่มั่นใจว่าคนร้ายที่จับได้เป็นผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหลักฐาน หนังสือรับรองว่าได้ลักทรัพย์ของ นายเดวิด มิลเลอร์ หนึ่งในนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรม ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือไอโฟน 4S สีดำ มีการลงชื่อโดยสาร นายวิน และ นายซอ ว่าพบหลังการเข้าค้นบ้านพักของทั้งสอง เป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ใช้ประกอบการทำสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหา

แต่หลักฐานดังกล่าวกลับสวนทางกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เป็นโทรศัพท์ของ นางสาวฮานนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ นักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตอีกรายหนึ่ง ซึ่งเพื่อนยืนยันว่า ได้มอบโทรศัพท์เครื่องนั้นให้กับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า โทรศัพท์มือถือรุ่นไอโฟน 4S สีขาว ของ นางสาวฮานนาห์ ได้ส่งมอบให้กับญาติผู้เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษเป็นพยาน ส่วนโทรศัพท์ที่พบอยู่ที่บ้านพักผู้ต้องหาเป็นโทรศัพท์ของนายเดวิด

จากการกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้บรรยากาศที่ศูนย์ปฏิบัติการสั่งการและควบคุมอาชญากรรมสถานีตำรวจบ่อผุด อ.เกาะสมุย เป็นไปอย่างเคร่งเครียด เนื่องจากถูกสังคมจับตามองเป็นพิเศษ เพราะหลังจากการขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรก 12 วันแล้ว หากเจ้าหน้าที่ทำสำนวนคดีไม่รัดกุม อัยการอาจตีกลับสำนวนให้มาสอบสวนใหม่อีกครั้งได้

ทางด้านเว็บไซต์ บีบีซีไทย ได้เปิดเผยคำสัมภาษณ์ นายอ่าว เมียง ตั๊ก ที่ปรึกษาด้านกฎหมายแก่แรงงานข้ามชาติในไทย ซึ่งเปิดเผยว่า เท่าที่รวบรวมข้อมูลทราบว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นที่พักของผู้ต้องหาได้มีการนำตัวผู้ต้องหาออกไปจากที่พัก นั่นหมายความว่า เจ้าหน้าที่ตรวจค้นโดยคนเหล่านั้นไม่ได้รู้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อสอบถามไปยัง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ที่ยืนยันว่าไม่ได้จับแพะ ส่วนกรณีที่ไม่มีผู้แทนทางกฎหมายของผู้ต้องหาร่วมอยู่ด้วย เพราะไม่เคยได้รับการติดต่อจากสถานทูตเมียนมาร์ จึงเห็นไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจที่จะไปจัดแจงหาทนายความให้ผู้ต้องหา

ขณะที่ สถานีโทรศัพท์สกายนิวส์ของอังกฤษ ระบุว่า การทำแผนประกอบคำรับสารภาพคดีดังกล่าวเป็นเรื่องพิลึกพิลั่น เช่นเดียวกัน เดอะ เทเลกราฟ หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอังกฤษ ชี้ว่าเหมือนกำลังชมการแสดงชิ้นหนึ่งอยู่ โดยมีผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คอยทำตามคำสั่งที่เจ้าหน้าที่บอกว่าพวกเขาก่อเหตุอย่างไร

ส่วน สวนดุสิตโพล ได้เปิดเผยผลสำรวจประชาชนเกี่ยวกับคดีดังกล่าว พบว่า 75.11% ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าคนร้ายที่จับกุมได้นั้นเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริงและยังมีหลายจุดที่น่าสงสัย ขณะที่ 79.56% คิดว่าหากคนร้ายที่จับได้เป็นตัวจริง ควรมีการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวเข้มงวดยิ่งขึ้น และอีก 84.89% อยากให้มีการดำเนินคดีอย่างโปร่งใส ถูกต้อง ยุติธรรม

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนหลายองค์กร ได้เดินทางลงพื้นที่เกาะสมุย และได้พยายามรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งมอบให้กับสถานทูตเมียนมาร์ประจำประเทศไทย และคาดว่าจะขอเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่ถูกคุมขังในวันพรุ่งนี้ (6 ต.ค.) ต่อไป

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ไทยพีบีเอส

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook