สุดสลด! หินถล่มทับแม่ชาวรัสเซียดับลูกรอด

เกิดเหตุหินถล่มลงมาที่บริเวณสำนักถ้ำพระนอนนาขวาง จ.เพชรบุรี ทับร่างหญิงชาวรัสเซียที่มาปฏิบัติธรรมเสียชีวิต ขณะที่ลูกสาวอายุ 6 ขวบรอดชีวิต

วันที่ 6 ต.ค. 2557 เวลา 13.00 น. ร.ต.ท.ญ.สุนิสา นาคฉาย พนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รับแจ้งเกิดเหตุ หินถล่มลงมาทับคน ที่บริเวณสำนักถ้ำพระนอนนาขวาง หมู่ที่ 2 ต.นายาง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จึงแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชา และรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน และเจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลชะอำ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ติดกับเขาถ้ำพระนาขวาง มีร่องรอยของหินก้อนใหญ่จำนวนหลายก้อน ตกลงมาจากยอดเขา ลงมาทับที่ห้องน้ำ พังเสียหาย 2 ห้อง ต้นมะขามหักโค่นมาทับรถของวัดและกุฏิพังยับเยิน ไปอีก 2 หลัง นอกจากนี้ยังมีรถเก๋ง สีแดง ถูกก้อนหินทับพังยับเยินแทบไม่มีชิ้นดี นอกจากนี้ ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 รายเป็นหญิงชาวต่างชาติ ทราบชื่อคือ นาง BAKIBVA ALSIYA หรือ ไลลา อายุ 36 ปี เป็นชาวรัสเซีย อยู่ในอาการสาหัส มีร่องรอยถูกกระแทก บอบช้ำไปทั้งตัว ที่ศีรษะด้านซ้ายมีบาดแผลฉีก เป็นร่องลึก ส่วนอีก 1 รายเป็นบุตรสาวของนางไลล่า อายุ 6 ขวบ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณสะโพกด้านซ้าย เจ้าหน้าที่พยาบาลได้รีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วรีบนำทั้ง 2 คนไปรักษาต่อยัง รพ.ชะอำเป็นการด่วน ต่อมา นางไลลา ได้เสียชีวิตลง ส่วนเด็กต้องนำส่งไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลพระจอมเกล้า โดยเบื้องต้นยังรู้สึกตัวดี แต่ยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบถาม นายโสภณ แสนมี อายุ 40 ปี เป็นช่างที่มารับก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์ภายในวัดดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ มีฝนตกและลมแรงมาก จู่ๆ เกิดเสียงดังสนั่นบริเวณยอดเขา ตนและคนอื่นๆ ตกใจ จึงได้รีบหนีออกมาจากบริเวณนั้น และเห็นว่าได้มีก้อนหินขนาดใหญ่ ตกลงมาจากยอดเขา ลงมากระแทกห้องน้ำและพุ่งเข้าใส่บริเวณที่รถของตนจอดอยู่ โดยกุฏิใกล้ๆ กันจะเป็นที่พักของนางไลลา ซึ่งมาปฏิบัติธรรมได้ประมาณ 10 กว่าวันพังยับเยิน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์สงบลง ตนพร้อมพระอาจารย์ไซม่อน ที่เป็นพระลูกวัด ได้รีบเข้าไปดู พบว่ารถของตนถูกก้อนหินทับพังเสียหาย และเห็นนางไลลานอนคว่ำหน้า โดยมีบุตรสาวนอนทับอยู่ จึงรีบเข้าไปช่วยนำตัวออกมา แล้วโทรแจ้งไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานขอรถพยาบาลมาทำการช่วยเหลือในทันที แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของนางไลลาเอาไว้ได้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำร่างของนางไลลา ไปเก็บรักษายังวัดถ้ำแก้ว อ.เมือง จ.เพชรบุรี และจะประสานไปยังสถานทูตรัสเซีย เพื่อนำศพและเด็กที่ได้รับบาดเจ็บกลับไปยังประเทศรัสเซียตามขั้นตอนต่อไป