ตำรวจไขปม 6 ข้อสงสัยคดีเกาะเต่า
ตำรวจแจง 6 ข้อสงสัยของนักสืบออนไลน์ในปมโทรศัพท์มือถือ การตรวจดีเอ็นเอ ถุงยางอนามัย การจับแพะหรือไม่?
(7 ต.ค.) จากกรณีนักสืบออนไลน์มีข้อสงสัยคดีเกาะเต่า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงจับกุมผู้ต้องหาฆ่า 2 ฝรั่งชาวอังกฤษ ซึ่งในปมข้อสงสัยดังกล่าวมีในเรืองของโทรศัพท์มือถือผู้ตายที่ไปอยู่ในห้องคนร้ายได้อย่าง เพราะเพื่อนของผู้ตายได้โพสต์บอกว่าเป็นคนนำโทรศัพท์มาให้ตำรวจเอง ประเด็นเรื่องของการปิดเกาะตรวจ DNA คนต่างด้าวทั้งหมด แต่ทำไมเพิ่งมาตรวจเจอคนร้าย
เกี่ยวกับประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์พร้อมกับการตั้งคำถามว่า พม่า 2 คนคือการจับแพะหรือไม่ ล่าสุดในเฟซบุ๊ค Thailand Police Story ได้โพสต์ชี้แจงข้อสงสัยเป็นประเด็นต่อประเด็น ข้อความดังกล่าวระบุว่า"ตอบข้อสงสัยคดีฆ่าเกาะเต่า"
1. ถาม : ตำรวจแถลงว่าโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ถูกทุบทิ้งแล้วโยนไว้หลังบ้านพักชาวพม่า แต่ทำไมถึงมีรูปหลุดมาว่าโทรศัพท์ของนางสาวฮานน่าห์ยังอยู่บนโต๊ะรับแจ้งความ
ตอบ : มือถือที่ชาวพม่าขโมยไปแล้วทุบทิ้งเป็นของผู้ตายคือนายเดวิดครับ ไม่ใช่ของนางสาวฮานน่าห์
2. ถาม : คนในกล้องวงจรปิดที่ถอดเสื้อวิ่งไปวิ่งมาหลังเกิดเหตุคือใคร ใช่ลูกผู้ใหญ่บ้านหรือไม่
ตอบ : เริ่มแรกพม่าทั้ง 3 คน (ใส่เสื้อทุกคน) นายวินสีดำ, นายซอสีแดง, นายเมาสีขาว เข้าไปซื้อบุหรี่ LM ที่ร้านค้า จากนั้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ออกไป เห็นได้ว่ามีการถือกีต้าร์ (ยาวๆดำๆ) เพื่อไปนั่งเล่นกันที่ริมหาด นายวินได้ถอดเสื้อออก (แลกเสื้อใส่เล่นกับนายเมา) สังเกตตอนซ้อนรถอีกครั้ง นี่คือหลักฐานว่านายวินไม่ได้ใส่เสื้อแล้ว สรุปคือคนที่ถอดเสื้อวิ่งไปวิ่งมาหลังเกิดเหตุคือนายวิน ซึ่งมีทรงผมเรียบยาว (20 วันก่อน ผมยาวประมาณในคลิป) แต่กางเกง หลังเกิดเหตุ ไม่ทราบว่าหยิบของใครมาใส่
3. ถาม: ภาพศพของนายเดวิดมีรอยแตกปริเหมือนโดนมีด มากกว่าที่จะโดนจอบในการฆ่า
ตอบ : นายเดวิดกะโหลกยุบ กระดูกใบหน้าและขากรรไกรแตก ผิวฟกช้ำ นั่นหมายถึงถูกของแข็งฟาดอัด รวมถึงมีรอยการบาดเพิ่ม นั่นคือคมเหลี่ยมของจอบ ฝ่ายนิติเวช กล่าวว่าถ้านายเดวิดโดนมีดจริง แผลด้านในและก้นแผลจะต้องเรียบ แต่ที่ตรวจสอบ ก้นแผลและขอบแผลเป็นแบบยุ่ย ซึ่งถูกของแข็งที่ไม่คม (จอบ) คนร้ายใช้จอบทุบหัวนายเดวิดทีเผลอ และใช้จอบทุบอีกหลายครั้งเนื่องจากนายเดวิดยังไม่สลบ (ทุกการทุบย่อมมีการบาด) จากนั้นมาข่มขืนนางสาวฮานน่าห์ เมื่อเธอกรีดร้องอย่างหนัก คนร้ายนำจอบมากระทุ้งสับหน้าผากในแนวดิ่ง แผลจึงแตกเป็นรูใหญ่กว่าของนายเดวิดมาก
4. ถาม : ถ้าพม่าไม่ใช้ถุงยาง แล้วถุงยางอนามัยที่ตกเป็นของใคร ทำไมมีแต่ DNA ของนางสาวฮานน่าห์
ตอบ : การรักษาสถานที่เกิดเหตุเป็นไปได้ยาก ตำรวจที่เกาะเต่ามีแค่ 7 คน เมื่อเกิดเหตุชาวบ้านได้เข้ามามุงและทำลายที่เกิดเหตุแล้ว รวมถึงน้ำทะเลได้กัดเซาะบางส่วน ถุงยางสภาพเดิมไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร พลิกด้านในหรือด้านนอก การตรวจ DNA สภาพที่ตำรวจไปเจอจึงพบแต่ของนางสาวฮานน่าห์ ซึ่งถุงยางนี้คาดว่านายเดวิดจะใช้ แต่ DNA ถูกทำลายจนเจือจางมาก
5. ถาม : ตอนเกิดเหตุแรกๆ มีข่าวว่าปิดเกาะตรวจ DNA คนต่างด้าวหมดแล้ว ทำไมเพิ่งมาตรวจเจอคนร้าย
ตอบ : ไม่เป็นความจริง คนต่างด้าวบนเกาะที่ลงทะเบียนมี 4,000 คน ไม่ได้ลงทะเบียนอีก 3,000 คน ตำรวจเรียกมาเก็บ DNA ได้ เพียง 400 คนเท่านั้น แปรผลออกมาแล้ว 315 คน นายเมาทำงานร้าน Ac Two คนเดียว เคยถูกเก็บ DNA แล้วจริงเพราะร้านอยู่ในรัศมี แต่คิวการส่งตรวจเยอะ จึงยังไม่ได้แปรผล สุดท้ายนายเมาไม่ได้ก่อเหตุ ผล DNA จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะคนร้ายคือนายวินกับนายซอเท่านั้น
6. นายเมาเป็นคนเดียวที่ทำงาน Ac Two นะครับ ภาพที่ออกสื่อมีชาวพม่าสวมเสื้อ Ac Two สองคน เป็นนายเมา 1 คน ส่วนอีกคนไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้นะครับ (บางคนนึกว่านายซอ ลองเทียบหน้าตอนจับกุมดูครับ) และกล้องวงจรปิดตอนพม่า 3 คนไปซื้อบุหรี่ มีเพียงนายเมาเท่านั้นที่ใส่เสื่้อสีขาว Ac Two
ผมมีช่องให้ลงภาพเพียง 6 ช่อง ภาพหน้าตาคนร้ายทรงผมอะไรต่างๆ เข้าไปดูที่ผมโพสก่อนหน้านะครับ