ช่อง 3-กสท.ได้ข้อยุติร่วม ย้ายอนาล็อกไปออกในช่อง 33 เอชดี
ศาลปกครอง 8 ต.ค.- ช่อง 3-กสท.ได้ข้อยุติร่วม ย้ายอนาล็อกไปออกในช่อง 33 เอชดีและ 43 ในระบบดาวเทียม เพื่อแก้ปัญหาให้ผู้ชม หลังอนาล็อกต้องจอดำตามมติ กสท.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลปกครอง ว่า เมื่อเวลา 13.00 น. คณะตุลาการศาลปกครองกลาง โดยนายดนัย ศรีโมรา ตุลาการเจ้าของสำนวน ได้ออกนั่งบัลลังก์ เริ่มไต่สวนในคดี ที่บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ยื่นฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กรณี กสท. มีมติให้โครงข่ายเคเบิลและดาวเทียมต้องระงับการเผยแพร่สัญญาณของช่อง 3 อนาล็อก ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ช่อง 3 จอดำในโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการไต่สวนนานกว่า 5 ชั่วโมง พล.ท.พีระพงศ์ มานะกิจ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกสท. พร้อมด้วย นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ได้แถลงร่วมกันถึงผลการหารือต่อหน้าคณะตุลาการ
น.ส.สุภิญญา กล่าวว่าศาลได้เจรจาไกล่เกลี่ยในประเด็นที่เป็นปัญหา โดยคู่กรณีตกลงกันได้ว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐ และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในการเปลี่ยนผ่านการออกอากาศโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอล เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่ปฏิบัติต่อผู้ประกอบการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกทุกราย กสท.จึงเห็นด้วยที่จะพิจารณาอนุมัติให้บริษัทบีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด ร่วมกับบริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จำกัด นำรายการช่อง 3 ระบบอนาล็อกไปออกอากาศแบบคู่ขนาน ( Simulcast) ในช่อง 33 เอชดี แบบช่อง 7 และช่อง 9 ภายใต้ประกาศหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยจะนำข้อตกลงนี้ไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ภายในวันที่ 10 ต.ค. 57 นี้ ทั้งนี้บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จะต้องปฏิบัติตามระเบียบภายในวันที่ 10 ต.ค. เวลา 12.00 น.
น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า ในวันที่ 10 ต.ค. ทางช่อง 3 จะต้องยื่นรายละเอียดของผังรายการในระบบอนาล็อกที่จะนำไปออกอากาศคู่ขนานในช่อง 33 เอชดีให้กับทาง กสท.พิจารณา เพื่อที่จะได้รับการพิจารณาลดค่าธรรมเนียม 4 เปอร์เซ็นต์จากราคาการประมูลอย่างเช่นที่ช่องอื่นได้ทำก่อนหน้านี้ ส่วนการออกอากาศคู่ขนานอย่างช้าก็น่าจะเป็นไม่เกิน 12.00 น.ของวันเสาร์ที่ 11 ต.ค.ซึ่งการเจรจาครั้งนี้ถือว่าจบลงด้วยดี โดยศาลได้ให้ทั้งสองฝ่ายคำนึงถึงประโยชน์ของสาธารณะ ซึ่งในส่วนของช่อง 3 ที่ก่อนหน้านี้อ้างว่าไม่สามารถออกคู่ขนานได้เพราะมีปัญหาเรื่องนิติบุคคล และกฎหมาย ศาลก็ช่วยไกล่เกลี่ยจนจบลงได้
"พูดง่ายๆ ให้เข้าใจว่ายังเป็นไปตามคำสั่งกสท. ที่เมื่อถึงวันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.00 น.คนที่ดูช่อง 3 ในเคเบิ้ลและดาวเทียม จะจอดำ แต่เพื่อหาทางออกให้กับผู้ชมคนที่ติดกล่องดิจิตอลก็ย้ายไปดูอนาล็อกได้ในช่อง 33 เอชดี ส่วนคนที่ติดดาวเทียมก็ไปดูอนาล็อกที่ช่อง 43 แต่คนที่บ้านยังใช้หนวดกุ้งก็ยังสามารถดูช่อง 3 อนาล็อกได้ตามปกติ" น.ส.สุภิญญา กล่าวและว่า ในส่วนของคดีที่ช่อง 3 ฟ้องกสท. นั้นก็มีแนวโน้มว่าช่อง 3 จะยื่นถอนฟ้อง แต่เบื้องต้นยังถือว่าคดียังมีอยู่ ส่วนที่ศาลจะเรียกไต่สวนคดีที่บริษัทเคเบิ้ลฟ้องกสท.ไว้ในกรณีเดียวกันวันพรุ่งนี้นั้น ศาลได้แจ้งว่าจะแจ้งคู่กรณีทราบถึงผลการเจรจาของวันนี้และคงไม่มีการไต่สวน
ด้านนายสุรินทร์ กล่าวว่า จากนี้ทางผู้บริหารก็จะไปหารือถึงผังรายการที่จะต้องไปจัดใหม่ซึ่งก็อยากนำผังของระบบอนาล็อกไปใส่ในช่อง 33 เอชดีทั้งหมด แต่อาจทำไม่ได้ คงต้องเป็นบางรายการ เพราะ ช่อง 33 เอชดี ก็มีรายการเดิมอยู่แล้ว ซึ่งการออกคู่ขนานมีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) แต่จะเท่าไรไม่อยากพูด อยากให้มองเป็นเรื่องการคำนึงถึงผู้ชม เพราะช่อง 3 ก็มีนโยบายสนับสนุนการดำเนินการสนับสนุนนโยบายของรัฐในการเปลี่ยนผ่านการออกอากาศในระบบอนาล็อกไปสู่ดิจิตอลอยู่แล้ว ส่วนการถอนฟ้องคดีก็น่าจะมีการดำเนินการได้ต่อไป