"ฌอน" เพื่อน 2 นักท่องเที่ยวเกาะเต่า โพสต์ "แม้แต่คนที่มีสมองครึ่งเดียวก็รู้ว่าพม่าถูกใส่ร้าย"

จากกรณีของคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ที่คนร้ายใช้จอบเป็นอาวุธตีศีรษะนาย เดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ และ น.ส.ฮานนาห์ วิทเธอริดจ์ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษจนเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมทารุณ ที่บริเวณชายหาดทรายรี ม.1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยเหตุเกิดเมื่อประมาณ 03.00 น. เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา

โดยวันที่ 7 ต.ค.ได้มีการนำสำนวนการสอบสวนที่มีความหนากว่า 850 หน้า พร้อมแผนผังการก่อคดีประกอบคำรับสารภาพของ นายเวพิว (หรือ วิน) และ นายจอ (หรือนายซอ หรือโซลิน หรือโซเรน) 2 ผู้ต้องหาแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์เชื้อสายยะไข่ ส่งให้อัยการจังหวัดเกาะสมุย ที่สำนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และต่อมาสำนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว คืนกลับให้พนักงานสอบสวนนำไปปรับปรุงแก้ไขในจุดบกพร่องบางจุด โดยกำชับทำสำนวนให้รัดกุมมากขึ้น

สื่ออังกฤษชื่อดังอย่างหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน และเทเลกราฟลงข่าวในทำนองเดียวกันว่า "แรงงานชาวเมียร์มาร์สองคนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยสังหารนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษสองคนได้ถอนคำรับสารภาพแล้ว"

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกของคดี หนึ่งในผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งนั้นก็คือ "ฌอน แมคแอนนา" นักท่องเที่ยวชาวสกอตแลนด์ เพื่อนของนายเดวิด กระทั่งวันที่ 20 ก.ย. ผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอวายโครโมโซม จากอสุจิระบุว่า เป็นดีเอ็นเอของชาวมองโกลอยด์ หรือ ชาวเอเชีย นายฌอน จึงพ้นข้อกล่าวหาไป

ทั้งนี้ นายฌอน นั้นเป็นผู้เกี่ยวข้องเพียงไม่กี่คน ที่ใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสาร และตอบโต้คดีนี้ โดยในวันที่ 23 ก.ย. นายฌอน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ถูก 2 มาเฟียท้องถิ่นขู่ฆ่า และคิดว่าทั้ง 2 มีส่วนรู้เห็นต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ จับผู้ต้องสงสัยได้ 1 รายเป็นน้องชายผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ พร้อมเร่งตรวจดีเอ็นเอ ได้เบาะแสอีก 1 ราย หลบหนีเข้ากรุงเทพฯ

และล่าสุดได้มีผู้ไปแสดงความคิดเห็นต่อคดีดังกล่าว ทางเว็บไซต์ soundcloud ผ่านบัญชีผู้ใช้ของนายฌอน ซึ่งเขาก็ได้ตอบกลับมาว่า

"ถึงทุกคน ผมไม่เคยพูดว่า ผมรู้ว่าใครเป็นฆาตกร ผมพูดแค่ว่า ถ้าผมตายในคืนนั้น แสดงว่าเป็นฝีมือของคนจากรีสอร์ทแห่งหนึ่ง แม้แต่คนที่มีสมองแค่ครึ่งก็คงรู้ว่าชาวเมียร์มาร์หล่านั้นถูกใส่ร้าย ผมเสียใจมากกับทุกคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แต่ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลยจริงๆ รวมถึงผมต้องขอโทษสื่อมวลชนด้วยที่ต้องโกหก เชื่อผมเถอะ พวกเขาโกหกในหลายเรื่องจริงๆ พวกเขาก็แค่สร้างเรื่องขึ้นมา"