อุตรดิตถ์ฮือฮา! พบต้นไม้ประหลาด 2 ต้น มี "อวัยวะเพศชาย-หญิง" หันหน้าเข้าหากัน

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ผู้สื่อข่าว จ.อุตรดิตถ์ รายงานว่า มีเสียงโจทก์ขานร่ำลือจากชาวบ้านในพื้นที่ตำบลท่าเสาว่า ที่วัดดอยท่าเสา หมู่ 6 ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มีต้นไม้ประหลาด จำนวน 2 ต้น ต้นแรกมี ส่วนงอกออกมาที่บริเวณกลางลำต้นคล้ายอวัยวะเพศชาย ต้นที่สองบริเวณกลางลำต้นมีส่วนเว้าคล้ายอวัยวะเพศหญิง

ทั้ง 2 ต้นยืนอยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตร แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า ต้นไม้ทั้ง 2 ได้หันอวัยวะเพศเข้าหากัน จนเป็นที่ฮือฮาแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก และมีชาวบ้านแห่มาขอโชคลาภได้สมปรารถนากันมาหลายงวดแล้ว ต้นไม้ชนิดนี้ชาวบ้านเรียก "ต้นพะยอม"

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบภายในวัด ด้านขวามือห่างจากถนนประมาณ 10 เมตร พบชาวบ้านชายและหญิงกำลังยืนมองต้นไม้ขนาดใหญ่ 5 คนโอบ สูงเกือบ 30 เมตร อายุกว่า 200 ปี พบที่บริเวณกลาง ลำต้นมีส่วนงอกออกมาคล้ายอวัยวะเพศชาย มีผ้าเจ็ดสียาวเจ็ดศอกพันรอบลำต้น ชาวบ้านได้นำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ และนำแป้งมาทาพร้อมแผ่นทองคำเปลวมาติดรอบต้นไม้ เพื่อขอโชคขอลาภจาก

โดยต้นไม้ประหลาดนี้ โดยเฉพาะที่บริเวณส่วนงอกคล้ายอวัยวะเพศชายซึ่งอยู่ช่วงกลางลำต้น และสูงประมาณ 3 เมตร ชาวบ้านได้นำเก้าอี้ยาวมาพาด แล้วนำแป้งและแผ่นทองคำเปลวไปติดที่บริเวณปลายอวัยวะเพศชาย เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าต้นไม้ใหญ่นี้มีเทวดาคุ้มครองรักษาให้ยืนอยู่จนถึงทุกวันนี้ จากนั้นได้นำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบไหว้ศาลเจ้าพ่อพะยอมซึ่งตั้งอยู่คู่กับต้นพะยอมเพศผู้ ที่ชาวบ้านศรัทธาร่วมสร้างเอาไว้ให้

จากนั้นทั้งหมดรุดไปยืนดูต้นไม้ประหลาดต้นที่สอง ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่ชนิดพันธุ์เดียวกันยืนต้นสูงกว่า 30 เมตร ชาวบ้านเรียก "พะยอมเพศเมีย" เนื่องจากที่บริเวณกลางลำต้นมีส่วนเว้าคล้ายอวัยวะเพศหญิง โดยมีต้นกาฝากขึ้นแทรกตรงกลางอวัยวะเพศ อยู่ห่างจากต้นแรกประมาณ 20 เมตร ชาวบ้านได้นำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ พร้อมนำแป้งมาทาและแผ่นทองคำเปลวติดที่ต้นไม้ เพื่อขอโชคลาภเสี่ยงดวงงวดประจำวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ต้นไม้เพศหญิงนี้ได้หันอวัยวะเพศไปทางต้นไม้ที่มีอวัยวะเพศชาย สร้างความประหลาดใจต่อผู้พบเห็นยิ่งนัก

ด้านพระครูสุภัทรสันติคุณ หรือพระครูวิรัตน์ เจ้าอาวาสวัดดอยท่าเสา กล่าวว่า ต้นไม้เพศชายและเพศหญิงคู่นี้ ยืนเด่นเป็นสง่าคู่กับวัดมาตั้งแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา-ต้นกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว วัดแห่งนี้จะมี ต้นไม้ใหญ่ที่อายุตั้งแต่ 100-200 ปีขึ้นไป จำนวนกว่า 10 ต้น เป็นต้นไม้เก่าแก่ สร้างความร่มรื่นให้กับทางวัด สิ่งที่สำคัญทางวัดจะไม่ไปตัดหรือทำลาย

ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกหลานได้ชมต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่ ภายในวัดเพราะนับวันจะหายากขึ้น ลักษณะของต้นไม้ที่มีความแปลกประหลาดออกมาเป็นเพศผู้และเพศเมียและหันหน้าเข้าหากันนั้น ถือได้ว่าเป็นธรรมชาติที่สร้างมาให้เหมือนกันผู้ชายและผู้หญิง ส่วนเรื่องการ กราบไหว้เป็นเรื่องความศรัทธาของญาติโยมไม่สามารถไปห้ามได้

ขณะเดียวกัน ที่บริเวณตรงข้ามศาลเจ้าพ่อพะยอม ซึ่งอยู่บริเวณทางเข้าวัดด้านซ้ายมือติดกับถนนพบต้นไม้ตะเคียน ยืนต้นสูงเด่นเป็นสง่า และมีอายุกว่า 200 ปี คาดว่ามีอายุเท่ากับต้นพะยอม ที่บริเวณโดยรอบ ต้นไม้ตะเคียน มีผ้าเจ็ดสียาวเจ็ดศอกพันโดยรอบ พร้อมมีชุดเสื้อผ้าสไบนางสีม่วง สีเขียว สีฟ้า สีเหลืองและสีแดง แขวนรอบต้นไม้แห่งนี้

สอบถามทราบว่า เกิดจากชาวบ้านที่มาขอโชคลาภ แล้วสมปรารถนาจึงได้สั่งซื้อชุด เสื้อผ้าและชุดสไบนางมาถวายเพื่อแทนการขอบคุณ พร้อมกับศาลเรือนไทยสวยงามตั้งอยู่ด้านหน้าด้วยเช่นกัน โดยมีชาวบ้านนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้เพื่อขอเรื่องโชคลาภอย่างไม่ขาดสาย