ทำแผนผลักญี่ปุ่นตกบันได เหยียบซ้ำดับคาเท้า
วานนี้ (24 ต.ค.) พล.ต.ท. สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เดินทางไปสอบปากคำนางพรชนก ไชยะปะ และนายสมชาย แก้วบางยาง ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าหั่นศพนายโยชิโนริ ชิมาโตะ ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น ซึ่งการสอบปากคำครั้งนี้ ทำให้นายสมชายยอมรับสารภาพว่า ในคดีที่นายคาชิโตชิ ทานากะ สามีเก่าของนางพรชนก ตกบันไดเสียชีวิตเมื่อปี 2546 ตนเองเป็นผู้ที่ผลักผู้เสียชีวิตตกบันไดเอง
ล่าสุด เช้าวันนี้ (25 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจเลยควบคุมตัวนายสมชายและนางพรชนก มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ขนาด 2 คูหา เลขที่ 99/427-428 หมู่ 9 ริมถนนบางนา-ตราด กม. 18 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
นายสมชายสารภาพเพิ่มเติมขณะทำแผนว่า ในวันเกิดเหตุตนได้มาดื่มเหล้ากับผู้เสียชีวิต จนกระทั่งกลางดึกแยกย้ายกันพักผ่อน และนายทานากะออกมาเข้าห้องน้ำ จึงสบโอกาสผลักผู้เสียชีวิตตกบันไดจากชั้น 4 ลงมาชั้น 3 จากนั้นตามลงมาดูพบว่านายทานากะยังมีชีวิตอยู่ จึงจับศีรษะของนายทานากะยัดกับซี่กรงราวบันได พร้อมใช้เท้าเหยียบคอเพื่อให้ขาดอากาศหายใจ นานประมาณ 10-15 นาที จากนั้นจึงทำทีเรียกคนอื่นว่าผู้เสียชีวิตตกบันได และให้ช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า จากตรวจสอบสำนวนการชันสูตรศพ รวมถึงได้เชิญนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ มาร่วมตรวจสอบด้วย แพทย์ยืนยันว่า บาดแผลที่เกิดจากศพนั้น ไม่ได้เกิดจากการตกบันไดเพียงอย่างเดียว ประกอบกับได้ข้อมูลจากพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์
สำหรับพยานในเหตุการณ์คือ นายสมศักดิ์ แซ่ลิ้ม น้องชายของนายสมชาย ผู้ต้องหา ได้เปิดเผยว่า เมื่อปี 2546 ตน ผู้ตาย นายสมชาย นางพรชนก และบิดาของตน พักอยู่ในอาคารพาณิชย์ดังกล่าวด้วยกัน รวม 5 คน ต่อมาวันเกิดเหตุทั้ง 5 คนได้นั่งดื่มสุราอยู่ด้วยกัน กระทั่งดึกจึงได้แยกย้ายกันไปนอน โดยตนนอนอยู่ชั้นล่าง ต่อมาช่วงประมาณตี 3 ตนได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกัน เป็นภาษาญี่ปุ่นจากชั้นบน จนได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้น จึงขึ้นไปดู ก็เห็นนายทานากะนอนแน่นิ่งอยู่ที่บันไดชั้น 3 และพบนายสมชายกับนางพรชนกยืนอยู่ใกล้กับผู้ตาย ก่อนที่นางพรชนกจะให้ตนช่วยนำร่างนายทานากะส่งรพ. แต่แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตมาก่อนแล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ต่อมานางพรชนกได้บอกให้พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคน ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่า นายทานากะตกบันไดเสียชีวิต แล้วเรื่องก็เงียบไปนานหลายปี จนตนทราบข่าวว่า ลูกสาวของผู้ตายไปขอให้ตำรวจรื้อคดีขึ้นมาใหม่ จึงได้เดินทางมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ นายสมชายเปิดเผยถึงเหตุจูงใจในการก่อเหตุว่า เป็นเพราะหึงหวงและคิดว่าหากผู้ตายเสียชีวิต ก็จะเข้ามาดูแลกิจการของผู้เสียชีวิตแทน เมื่อทำแผนเสร็จเรียบร้อยเจ้าหน้าที่จะนำตัวส่งฟ้องที่ศาลอาญา รัชดา
ขอบคุณภาพประกอบจาก จส100