ผู้ว่าฯสุราษฎร์ สั่งยกเลิกปาร์ตี้เกาะพะงัน เหลือแต่"ฟูลมูนปาร์ตี้" ป้องกันอาชญากรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีคำสั่งด่วนถึง นายทวีศักดิ์ อินทร์พรหม นายอำเภอเกาะพะงัน ยกเลิกการจัดงานปาร์ตี้บนเกาะพะงันทุกปาร์ตี้ เช่น ฮาล์ฟมูน เฟสติวัล, ชีว่ามูล, แบล็คมูน เป็นต้น ให้เหลือที่เดียวที่จัดได้คือ "ฟูลมูนปาร์ตี้" เดือนละ 1 ครั้ง ในเฉพาะคืนเพ็ญ 15 ค่ำของทุกเดือนบนหาดริ้น ต.บ้านใต้ เท่านั้น หากมีเหตุผลความจำเป็นต้องจัดงานบริเวณชายหาด และที่สาธารณะให้อำเภอรายงานขอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดก่อน จึงจะจัดงานได้โดยให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
โดยทาง นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกับ พล.ต.เกื้อกูล อินจักร์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี นายทวีศักดิ์ อินทร์พรหม นายอำเภอเกาะพะงัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เกาะ พะงัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเกาะพะงัน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมร่วมกันเพื่อวางมาตรการป้องกันปัญหาอาชญากรรมในแหล่งท่องเที่ยว หลังประชุมร่วมกันทุกฝ่ายมีมติเห็นด้วย จึงสั่งให้ยกเลิกการจัดงานปาร์ตี้ตามแหล่งท่องเที่ยวทุกอย่างบนหมู่เกาะ
เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม แหล่งอบายมุข และแหล่งมั่วสุ่ม หลังเกิดเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ อ.เกาะ พะงัน ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวและชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการจัดงานปาร์ตี้บริเวณชายหาดและที่สาธารณะ เช่น แบล็คมูน ฮาฟมูน เป็นต้น โดยผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือหยุดจัดงานแล้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาะพะงันและอาสาสมัครได้ ถอดเก็บป้ายประชาสัมพันธ์โฆษณาการจัดงานแบล็คมูนปาร์ตี้, จังเกิลมูนปาร์ตี้, เอ็กพีเรียนมูน ปาร์ตี้ ที่ติดอยู่ตามบริเวณท่าเทียบเรือท้องศาลา อ.เกาะพะงัน เนื่องจากมีคำสั่งห้ามการจัดงานปาร์ตี้อื่นๆ ยกเว้นงานฟูลมูนปาร์ตี้เหลือเพียงงานเดียว
ส่วนคดีที่ 2 นัก ท่องเที่ยวชาวอังกฤษถูกฆาตกรรมที่เกาะเต่านั้น หลังจากที่เมื่อวานนี้ทางตำรวจอังกฤษลงเกาะเต่าเพื่อตรวจสถานที่เกิดเหตุ จริง ได้ไปตรวจสอบที่ร้านเอซีบาร์ ที่นักท่องเที่ยวอังกฤษไปเที่ยวก่อนจะเสียชีวิต และไปตรวจดูจุดเกิดเหตุที่เสียชีวิตของนักท่องเที่ยวอังกฤษ ตรวจดูจุดที่ผู้ต้องหานั่งเล่นกีตาร์ จุดที่พบจอบที่ใช้ก่อเหตุ และจุดที่เพื่อนของผู้ต้องหานำโทรศัพท์มือถือของนายเดวิดไปทิ้ง ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลไปนั้นไม่ได้เป็นที่เปิดเผยกับสื่อมวลชนทราบแต่อย่าง ใด
ข่าวแจ้งว่าในวันที่ 27 ตุลาคม นี้ ทางอัยการจังหวัดเกาะสมุยจะฝากขังนายวิน ซอ ตุน และนายซอลิน ผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์ต่อเป็นผลัดที่ 3 เป็นเวลาอีก 12 วัน เพราะทางสำนวนคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของนายเดวิด มิลเลอร์ ผู้เสียชีวิตชาวอังกฤษ ที่เพื่่อนของผู้ต้องหานำไปทำลายและนำทิ้งไปนั้น ต้องรอหนังสือของทางสถานทูตอังกฤษยืนยันว่าเครื่องดังกล่าวเป็นของ นายเดวิด มิลเลอร์ จริง เพื่อมาประกอบสำนวนคดีส่งให้อัยการต่อไป
ส่วนทางด้านพ่อแม่ และญาติของนายวิน ซอ ตุน และนายซอลิน ผู้ต้องหา ยังพักอยู่ที่สถานทูตเมียนมาร์ประจำประเทศไทย เพื่อติดตามคดีของลูกชายอย่างใกล้ชิด