ออสเตรเลีย ระงับวีซ่า 3 ชาติแอฟริกา

รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง และการป้องกันพรมแดน ของออสเตรเลีย "นายสกอตต์ มอร์ริสัน" แถลงว่า กระทรวงจะงดออกวีซ่าให้กับพลเมืองของเซียร์รา ลีโอน ไลบีเรีย และกินีเป็นการชั่วคราว ทั้งประชาชนทั่วไปและผู้อพยพ ในความพยายามที่จะสกัดไวรัสอีโบลา ไม่ให้ระบาดเข้ามาในออสเตรเลีย นอกจากนี้ ยังจะระงับการเดินทางเข้าออสเตรเลีย ของพลเมืองจากประเทศเหล่านี้ ที่ได้รับวีซ่าเข้าออสเตรเลียชั่้วคราวแล้วแต่ยังไม่ได้เดินทางมา ส่วนผู้ได้วีซ่าออสเตรเลียถาวรที่มาจาก 3 ประเทศแอฟริกาตะวันตกดังกล่าว ต้องถูกกักตัวไว้ 21 วัน ก่อนเข้าประเทศ

"มาตรการนี้ส่งผลให้มีต้องระงับการรับคนจากประเทศ ที่มีการระบาดของอีโบลาเข้าเมืองของเราเป็นการชั่วคราว รวมถึงโครงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของเราด้วย นั่นหมายความว่า เราจะไม่ดำเนินการใดๆ ต่อคำร้องขอเข้าเมืองจากคนในประเทศที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้" นายสกอตต์ มอร์ริสันกล่าว

ถ้อยแถลงของนายมอร์ริสันเกิดขึ้น หลังผลการตรวจสอบอีโบลาจากวัยรุ่นอายุ 18 ปี ที่เพิ่งเดินทางมาจากกินีแล้วมีอาการป่วย ได้ผลเป็นลบ

ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เคซี ฮิคค็อกซ์ นางพยาบาลรายแรกที่ถูกบังคับกักบริเวณในรัฐนิวเจอร์ซีย์ภายใต้นโยบายใหม่ เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นว่า การถูกกักบริเวณแยกเดี่ยวที่โรงพยาบาลของเธอ เป็นเรื่องที่ขาดมนุษยธรรมอย่างมาก และเสริมว่า "เราต้องระมัดระวังในการปล่อยให้นักการเมืองตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับสาธารณสุข"

ฮิคค็อกซ์กล่าวว่า เธอถูกปฏิบัติเหมือนอาชญากรหลังเดินทางกลับมาจากเซียร์ราลีโอนเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะฟ้องในเรื่องการถูกจำกัดบริเวณต่อศาลของรัฐบาลกลาง ขณะที่ทนายความของเธอระบุว่า กรณีนี้เป็นการชูให้เห็นปัญหาในเรื่องเสรีภาพพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ ขณะที่นายบิล เดอบลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ระบุว่า ฮิคค็อกซ์ถูกปฏิบัติอย่างขาดความเคารพ เหมือนเธอทำอะไรผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น