อยู่ให้รอด ชีวิตเมืองหลวง แหล่งรวมอาชญากร?
กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงอันศิวิไลซ์แหล่งรวมความเจริญในทุก ๆ ด้าน เหตุผลนี้เองทำให้หลายคนต่างมุ่งหน้าทิ้งถิ่นบ้านเกิดเข้ามาสร้างชีวิตที่ดีเพื่อความฝันของตัวเองพร้อม ๆ กับเป็นความหวังของครอบครัว
เมื่อเมืองหลวงดึงดูดผู้คนจากทุกสารทิศมารวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่จังหวัดกรุงเทพมหานครมีพื้นที่รองรับประชากรได้เพียง 1,568.7 ตารางกิโลเมตร ความหนาแน่นจึงเกิดขึ้น เทียบเคียงตามสุภาษิตที่ว่า "ร้อยพ่อพันแม่" "รู้หน้าไม่รู้ใจ" เมื่อต่างที่มาต่างครอบครัวมาอยู่รวมกันในสังคมเมืองหลวง แน่นอนว่าสิ่งดีย่อมจะมี สิ่งร้ายย่อมบังเกิดขึ้นแบบที่เราเห็นตามสื่อหรือได้ยินจากคำบอกเล่าและอาจจะเป็นความรู้สึกบางอย่างที่สั่งให้รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
จากสถิติการเกิดคดีอาชญากรรมในเมืองหลวงที่ทำให้คนกรุงรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมีให้เห็นเป็นรายวันไม่ว่าจะเป็นคดีวิ่งราวลักทรัพย์ หรือจะเป็นคดีที่ผู้หญิงในสังคมกลัวที่สุดคือ "ข่มขืน"
เหตุจูงใจที่ทำให้คนกลายเป็นซาตานก่อคดีอาชญากรรมต่าง ๆ อาจเป็นเพราะด้วยเรื่องของความจน ต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด วัตถุนิยมอยากได้อยากมี ที่สำคัญถ้าคนศีลธรรมขาดอะไรก็เกิดขึ้นได้ ประกอบกับตัวแปรคือสถานที่เปลี่ยวตึกร้าง ซอยมืด ล้วนแต่เป็นบ่อเกิดอาชญากรเมืองกรุง
ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็น ของ สนุกโพล เกี่ยวกับความปลอดภัยในเมืองหลวงกับหัวข้อที่ว่า "การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ มีความปลอดภัยเพียงพอหรือยัง" ตัวเลข 65% รู้ไม่ปลอดภัย ต้องพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก, 24% ไม่ปลอดภัยเลย, 10% ปลอดภัยแต่ต้องระวังตัวอยู่บ้าง และ ปลอดภัยดีอยู่แล้วเพียง 1% เท่านั้น (จำนวน 5947 คน)
ทั้งนี้ นโยบายของกรุงเทพมหานครพยายามผลักดันให้เป็น "มหานครแห่งความปลอดภัย" โดยการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมทั่วทั้งเมืองพร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายเอกชน 2 แสนตัว และอาสาสมัครชุมชนเฝ้าระวังภัยเสริมความปลอดภัยทุกชุมชน สร้างความเชื่อมั่นให้คนกรุงมีความปลอดภัยทุกย่างก้าว
แต่สุดท้ายแม้จะมีนโยบายดูแลความปลอดภัยแค่ไหน ตัวเองย่อมต้องดูแลตัวเอง อัตตาหิอัตโนนาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุด