เปิดเส้นทางเงิน รับส่วย รวยอื้อ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์
เปิดเส้นทางการเงิน รับส่วย รวยอื้อของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์และพวก
เป็นข่าวใหญ่ของวงการสีกากีกับการขุดรากถอดโคนอิทธิพลขบวนการทุจริตของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่และพวกที่ร่วมขบวนการเป็นเครือข่ายมีทั้งนายตำรวจและพลเรือน จึงเป็นที่มาของการจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ซึ่งถูกดำเนินคดีหลายข้อหาหนัก ทั้งแอบอ้างเบื้องสูง เรียกรับสินบนการแต่งตั้งโยกย้าย รับส่วยจากบ่อนและน้ำมันเถื่อน และอีกหลายคดี
เครือข่ายการกระทำความผิดของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์
เปิดเครือข่ายด้านมืด ขุนพลคู่ใจที่เป็นมือขวาคือ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศรุ่งโรจน์ ตามด้วย พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิ่มรัตน์ (ตกจากที่สูงเสียชีวิต), พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน, พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์, ด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง, ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา, นายชอบ ชินนะประภา, นางปิยพรรณ ชินนะประภา ซึ่งทั้งหมดถูกจับกุมและดำเนินคดีอาญาจำแนกตามข้อหากระทำความผิด
ลำดับขั้นตอนการสั่งการมี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นศูนย์กลางและคอยบัชญาการสั่งงาน ส่วนผู้เรียกร้องรับผลประโยชน์นั้น แกนหลัก คือ พล.ต.ต.โกวิทย์ และ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ ซึ่งทรัพย์สินที่ได้มาจากการแสวงหาผลประโยชน์นั้นจะถูกส่งต่อให้กับนายใหญ่ และสุดท้ายทรัพย์สินจะถูกส่งต่อไปที่ นายชอบ ชินนะประภา, นางปิยพรรณ ชินนะประภา 2 สามีภรรยา ที่ทำหน้าที่เป็นนอมินีอำพรางทรัพย์สินให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์
เส้นทางการเงินมูลค่ามหาศาลกว่า 2 พันล้านบาท
ขุมทรัพย์แหล่งที่มาการมีเงินมหาศาล คือ การรับส่วยจากบ่อนการพนันทั่วประเทศ รับส่วยจากการวิ่งเต้นตำแหน่งข้าราชการตำรวจสอบสวนกลาง และที่สำคัญการเรียกรับเงินจากผู้ค้าน้ำมันเถื่อนในภาคใต้ซี่งมีรายได้ต่อเดือน 15 ล้านบาท เรียกว่ารวยอื้อซ่ากันถ้วนหน้าแม้กระทั่งนายตำรวจที่ทำหน้าที่ขับรถยังมีทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังพบทรัพย์สินอีกหลายรายการหลังจากการตรวจค้นบ้านพักบุคคลเครือข่าย ทั้งหมด 15 สถานที่ โดย 11 สถานที่เป็นของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พบตู้เชฟที่ถูกฝังดิน ห้องเก็บตู้เซฟที่มีการปิดอย่างหนาแน่น เครื่องประดับ รถยนต์หรู ภาพวาดราคาแพง แสตมป์ทองคำ รวมถึงรูปปั้นประติมากรรมสมัยก่อน พระพุทธรูปเงินสดและธนบัตรดอลลาร์อีกจำนวนมาก ตามด้วยบ้านพักของ พล.ต.ต.โกวิทย์ และ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ พบเครื่องประดับ รถหรูอีกหลายคัน รวมทั้งหมดมีมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ การตรวจค้นเพื่อยึดทรัพย์สินและรวบรวมพยานหลักฐานจากการกระทำความผิดของเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ได้มาแล้วกว่า 10,000 รายการ และมีการขยายผลไปยังตำรวจอีกหลายนาย โดยเฉพาะในหลายกองบังคับการที่อยู่ในสายบังคับบัญชาของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางอีกกว่า 30 นาย ซึ่งมีรายชื่อชัดเจนอยู่ที่ ผบ.ตร.แล้ว
เชื่อขบวนการนี้ฝังรากมานาน
นับเป็นการขุดรากถอดโคนเครือข่ายใหญ่นายตำรวจนอกรีด คาดว่าขบวนการนี้ทำมาแล้วหลายปีกับเก็บส่วยบ่อนพนันทั่วประเทศ ส่วยน้ำมันเถื่อน ส่วยสินบนวิ่งเต้นตำแหน่งจากข้าราชการตำรวจสอบสวนกลาง เชื่อว่ายังมีนายตำรวจระดับสูงอีกจำนวนมากพัวพัน
สุดท้ายถ้าทำผิด "ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหนก็จับ" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้กล่าวไว้ (ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก สำนักข่าวไทย)