ทหารส่งมอบ 5 ผู้ต้องหาเครือข่าย "พงศ์พัฒน์" เข้า บช.น.
(28 พ.ย.) ความคืบหน้ากรณีกวาดล้างผู้ต้องหาเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ซึ่งได้มีการอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 5 ราย ซึ่งมีส่วนข้องเกี่ยวกับข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น เพื่อกรรโชกทรัพย์สินมูลค่า 20 ล้านบาท ตามที่มีเหยื่อผู้เสียหายเป็นหญิงเข้าแจ้งความเอาไว้ที่ สน.พระโขนง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
ตามรายงานระบุว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (27 พ.ย.) ที่กองบัญชาการนครบาล (บช.น.) พ.อ.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยนำกำลังทหารติดชุดอาวุธ ควบคุมตัว นายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และ นายชากานต์ ภาคภูมิ ผู้ต้องหา 2 ใน 5 ราย ที่ก่อเหตุขู่กรรโชกทรัพย์พื้นที่สน.พระโขนง ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติม
โดยให้ชุดสืบสวน สน.พระโขนง ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย แยกสถานที่เพื่อให้พนักงานสอบสวนบก.น.5 สอบปากคำ เพิ่มเติม โดยควบคุมตัว นายสุทธิศักดิ์ สอบปากคำที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ส่วน นายชากานต์ ควบคุมตัวสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องประชุมอำนวยการ กองบังคับการอำนวยการ บช.น.
ต่อมาในเวลาประมาณ 21.00 น. วันเดียวกันนั้น กำลังทหารติดชุดอาวุธได้นำตัวผู้ต้องหาอีก 3 ราย ประกอบด้วย นายณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา นายสิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา และ นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา มาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ บช.น. ซึ่งทั้งหมดได้ถูกจับแยกกันสอบสวนและให้การยอมรับสารภาพ นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ยังได้แจ้งดำเนินคดีตามมาตรา 112 ในความผิดฐาน หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา และเวลา 13.00 น. วันนี้จะควบคุมตัวไปขออำนาจศาล จังหวัดพระโขนง ฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนมีพฤติการณ์แอบอ้างเป็นญาติของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ก่อเหตุท้วงหนี้ เจ้าหนี้ในลักษณะข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว ซึ่งผิดกฎหมาย เมื่อเดือนมีนาคม 2557 นอกจากนี้ยังมีพลเรือนเกี่ยวข้องอีก 2-3 คน อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เสนอศาลออกหมายจับในเร็วๆ นี้ ส่วนการตรวจสอบประวัติ พบทั้ง 5 คนยังร่วมก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ออกหมายจับเพิ่มด้วย ส่วนตำรวจที่อยู่ในขบวนการดังกล่าว อยู่ระหว่างการสอบสวน ยังไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับใครในขณะนี้