คุมตัว "พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์" ส่งคืนศาลอาญาตามขั้นตอน หลังขออายัดตัวสอบเพิ่ม
พนักงานสอบสวนคุมตัวอดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางส่งคืนศาลอาญาตามขั้นตอน หลังขออายัดตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม
วันที่ 29 พ.ย. 2557 เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ควบคุมตัว พลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ จูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นำตัวมาส่งคืนต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก ตามขั้นตอน เพื่อส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ซึ่งก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว พลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ มาขออำนาจศาลฝากขัง ผัดแรก ไปแล้ว เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แต่ได้ขออายัดตัวพลตำรวจโทพงพัศ์พัฒน์ กลับไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยในวันนี้พลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ มีท่าทางเคร่งเครียด และอิดโรยอย่างเห็นได้ชัดหลังถูกควบคุมตัวไปสอบปากคำถึง 5 วัน
ด้าน พันตำรวจเอกเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการกองอารักขาและควบคุมฝูงชน ระบุว่า หลังสอบสวนพลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ เสร็จสิ้น ได้นำตัวมาส่งคืนให้ศาล เพื่อออกหมายขัง และส่งไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งในวันที่ 4 ธันวาคมนี้จะครบกำหนด ต้องฝากขังผัดที่ 2 และท้ายคำร้องฝากขังพนักงานสอบสวนยังได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการระดับสูง เกรงว่าจะใช้อิทธิพลไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกายพลตำรวจโทพงพัฒน์ ส่วนที่มีการอาการอิดโรย และมีลักษณะบาดเจ็บที่ขานั้น เนื่องจากอายุมาก และมีอาการป่วย
สำหรับคดีของพลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหารวมทั้งหมด 22 คน และสามารถจับกุมได้แล้ว 17 คน โดยอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน 2 คน และอยู่ระหว่างติดตามจับกุม อีก 5 คน
ขณะที่บรรยากาศที่ศาลอาญา มีสื่อมวลชนจำนวนมาก มาปักหลักรอทำข่าวตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนเวลาเปิดทำการศาล โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาล ได้นำแผงเหล็กมากั้น ทางเดินเข้าห้องควบคุมตัว เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย โดยรอบพื้นที่
ส่วนการตรวจค้นทรัพย์สิน ของพลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ กับพวกเครือข่าย ตำรวจมีการเข้าตรวจค้นพื้นที่ต่างๆ ทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อย่างต่อเนื่อง พร้อมยึดทรัพย์เพิ่มจำนวนหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจได้ยึดทรัพย์สิน ของพลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ กับเครือข่าย มาแล้ว กว่า 20,000 ชิ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ