สกัดวุ่น! 2 ผู้โดยสารชักปืนปากกาจี้แท็กซี่ เผ่นหนีขึ้นรถเมล์

วานนี้ (5 ธ.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสน.ประเวศ ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายจำนวน 2 ราย ร่วมกันพยายามก่อเหตุชิงทรัพย์นายปารเมศวร์ สว่างสังวาล อายุ 51 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน ทล 8266 กรุงเทพมหานคร ภายในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ บริเวณถนนศรีนครินทร์ขาเข้า แขวงบางบอน เขตประเวศ กทม. จึงนำกำลังรุดเข้าตรวจสอบ

ทราบภายหลังว่าผู้ก่อเหตุได้ร่วมกันหลบหนีขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย 207 สีฟ้า-ขาว เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามตัวกระทั่งสามารถจับกุม นายอัศนัย หรือขวด ซุ่มยิ้ม อายุ 20 ปี และนายวันชัย หรือยศ เสถียรวงศ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี ได้ที่บริเวณแยกพัฒนาการ ถนนศรีนครินทร์ขาเข้า แขวงและเขตสวนหลวง พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 ม.ม. จำนวน 2 นัด อาวุธมีดหัวตัดความยาว 2 ฟุต จำนวน 1 เล่ม และอาวุธมีดปลายแหลมขนาด 1 ฟุต จำนวน 1 เล่ม ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ประเวศ

พ.ต.อ.วัชรพงศ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นนายอัศนัย พบว่าซุกซ่อนอาวุธปืนปากกาไว้ที่รองเท้าด้านขวา พร้อมทั้งเหน็บอาวุธมีดหัวตัดไว้ที่ด้านหลัง ส่วนนายวันชัย พกอาวุธมีดปลายแหลมไว้ที่ด้านหลัง นอกจากนี้จากการตรวจประวัตินายอัศนัย พบว่าถูกดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่าในเขตพื้นที่สภ.สมุทรปราการ เมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา

ด้านนายปารเมศวร์ คนขับแท็กซี่ให้การว่า ผู้ก่อเหตุได้เรียกตนจากฟาร์มจระเข้ จ.สมุทรปราการ เพื่อให้ไปส่งยังห้างสรรพสินค้าพันธ์ทิพย์ พลาซ่า สาขางามวงศ์วาน ระหว่างทางเห็นทั้งคู่ท่าทางมีพิรุธ พูดจาไม่รู้เรื่อง ตนเห็นท่าไม่ดีจึงตัดสินใจแวะจอดที่ปั๊มเอสโซ่ เพื่อหลอกว่ารถเสียพร้อมทั้งขอค่ารถโดยสารจำนวน 100 บาท แต่ผู้ต้องหาไม่ให้

จากนั้นนายอัศนัย ได้เดินลงมาเปิดประตูด้านคนขับ ก่อนใช้อาวุธปืนปากกาเข้ามาจี้ที่เอว พร้อมทั้งบังคับให้ส่งทรัพย์สินที่มีค่ามาให้หมด แต่ตนขัดขืนประกอบกับบริเวณดังกล่าวมีผู้คนพลุกพล่าน คนร้ายทั้งสองจึงรีบหลบหนีขึ้นรถโดยสารประจำทางไป ต่อมาตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ประเวศ ก่อนสามารถสกัดจับตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ได้ดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันพยายามชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยมีอาวุธ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสน.พระโขนง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.ท.ณรงค์วิช สุดกังวาน รอง ผกก.จร. สน.ประเวศ กล่าวว่า อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่ตรวจพบในครั้งนี้ มีการพัฒนารูปแบบของอาวุธโดยมีการดัดแปลงให้สามารถใช้กับกระสุนปืนขนาด .38 ม.ม. ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากเดิมที่ใช้กับกระสุนขนาด .22 ม.ม. รวมถึงมีการซื้อขายกันอย่างแพร่หลาย โดยผ่านทางอินเตอร์เน็ต และทางไปรษณีย์ ซึ่งราคาอยู่ระหว่าง 500 - 700 บาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบแหล่งที่มาของอาวุธปืนเพื่อติดตามตัวผู้ค้ามาดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย