"ปฏิวัติซ้ำ" หรือแค่โยนเชื้อ หวังสร้างความระแวง?
ไม่ธรรมดาสำหรับอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตผบ.ทบอย่าง "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ให้สัมภาษณ์สื่อออนไลน์ โยนประเด็น "ปฏิวัติซ้ำ"ใส่ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.
โดยลุงจิ๋ว ให้สัมภาษณ์ช่วงตอนหนึ่งว่า "ขอเตือนตรง ๆ ในปีหน้า รัฐบาล คสช.เผชิญปัญหาภาระหนัก ๆ หลายเรื่องทั้งวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกมากระทบภายในประเทศและปัญหาการเมืองมาซ้ำเติมส่อเค้าวุ่นวายจากรัฐธรรมนูญใหม่
ระวังเกิดปฏิวัติซ้ำ กลายเป็นตอนยึดอำนาจได้ดอกกุหลาบ แต่ตอนไปจะได้ก้อนอิฐ เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบายที่ชัดเจนแก้ปัญหาพื้นฐานของประเทศคือความยากจน แต่ไปมุ่งอยู่กับการปฏิรูปการร่างรัฐธรรมนูญ ที่มุ่งประโยชน์ให้อยู่กับชนชั้นปกครองมากกว่า
ซึ่งไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะดีแค่ไหน คนไทยก็ออกมาตีกันอีกและหมุนเวียนมาปฏิวัติอีก โดยความผิดทั้งหมดจะถูกโยนมาให้รัฐบาล คสช.จะถูกมองว่า แก้ไม่เป็น แก้ไม่ถูกจุด และทำต่อไม่ได้ เป็นเงื่อนไขไปสู่ปัญหาอื่น ๆ แบบตั้งตัวไม่ทัน............................."
โอกาสจะเกิดปฏิวัติซ้ำมีมากน้อยเพียงใด ?
หลังการให้สัมภาษณ์ประเด็นดังกล่าวทำให้บรรดานายทหาร นายกองหลายท่านออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น ไม่เคยได้ยินข่าวในเรื่องดังกล่าว และไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างเช่น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ออกมายืนยันไม่มีปฏิวัติซ้อนแน่นอน
ทั้งนี้ จากการตรวจเช็คกับแหล่งข่าวในวงการทหาร ต่างประเมินในทิศทางเดียวกันว่า ประเด็นปฏิวัติซ้ำ หรือ ปฏิวัติซ้อน ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะในการโยกย้ายตำแหน่งนายทหารระดับคุมกำลังในช่วงที่ผ่านมา ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่มีสายของกลุ่มที่อิงกับอำนาจรัฐบาลเก่า และ ต้องยอมรับว่าในขณะนี้กองทัพ ค่อนข้างเป็นเอกภาพ ไม่มีภาพของความเหลื่อม หรือรอยร้าวใดๆให้เห็น
แน่นอนว่า ประเด็นความปัญหาเศรษฐกิจย่อมต้องเกิดขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะภาคการเกษตร ซึ่งขณะนี้ก็ชัดเจนว่าปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้โดยง่าย และหากเกิดปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก ก็จะสร้างความไม่พอใจในการบริหารงานของรัฐบาล คสช.เป็นธรรมดา
ส่วนความเห็นที่ไม่ตรงกันในเรื่องการปฏิรูป หรือ การร่างรัฐธรรมนูญ ย่อมเกิดขึ้นแน่นอนและ ฝ่ายการเมืองที่เสียประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงมีโอกาสที่จะลงมากระพือเพื่อให้กระแสแรงขึ้น แต่ ทั้งหมดทั้งมวลเชื่อว่า ไม่น่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งถึงขั้นแตกหัก
ทำไม่ถึงบอกว่า การโยนกระแสปฏิวัติซ้ำ ของลุงจิ๋วจึงไม่ธรรมดา.... ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองของ ลุงจิ๋วที่ผ่าน เคยนั่งผบ.ทบ. นั่งนายกรัฐมนตรี เคยได้ฉายา ขงเบ้งกองทัพมีหรือจะไม่รู้ สถานการณ์เหล่านี้
แต่ สิ่งที่หวังได้จากการโยนกระแสนี้ น่าจะหวังเพียง โยนเชื้อ ความหวาดระแวงให้กับผู้นำรัฐบาล ผู้นำคสช.มากกว่า เพราะเป็นธรรมดาว่า ระหว่างคำว่าอดีตผบ.ทบ. กับ ผบ.ทบ. อำนาจสั่งการโดยตรงต่อทหารทุกคนมันต่างกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในขณะที่ความเป็นเอกภาพของกองทัพและ ความเป็นหนึ่งเดียวของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ คสช. ยังแนบแน่น สิ่งที่ลุงจิ๋ว พยากรณ์เรื่องปฏิวัติซ้ำ จึงไม่น่าจะเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นได้โดยง่าย