เอม เจษยา เสียรู้พริตตี้!! ถูกปล่อยภาพเปลือยว่อนเน็ต

นักแสดงสาว "เอม เจษยา เวียงเกตุ" โผล่ขอโทษประชาชนพร้อมชี้แจงผ่านสื่อเป็นครั้งแรก หลังมีภาพถ่ายสุดสยิวขณะนอนเปลือยกายบนเตียงอาบแสงไฟในสปาถูกส่งต่อในโลกโซเชียล จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเจ้าตัวจงใจปล่อยภาพหลุดเพื่อสร้างกระแสให้ตัวเองกลับมามีงานอีกครั้ง!!

ซึ่งงานนี้นอกจากสาวเอมจะออกมายอมรับแล้วว่าหญิงสาวที่เห็นในภาพนั้นคือตนเองจริง เจ้าตัวก็ยังชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า คนปล่อยภาพดังกล่าวแท้จริงแล้วคือน้องพริตตี้คนสนิท ซึ่งตอนนี้ตนได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับพริตตี้สาวคนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว...

ก่อนอื่นเลยอยากให้เราช่วยชี้แจงเรื่องภาพหลุดในสปา ?
"อย่างแรกเลยเอมอยากจะขอโทษทุกคนนะคะถ้าหากภาพนั้นทำให้เสียความรู้สึก ซึ่งเอมยอมรับว่าภาพที่ยืนหน้ากระจกเอมเป็นคนถ่ายเอง แต่ภาพที่นอนอยู่บนเตียงอันนี้เอมทราบตัวคนทำแล้วค่ะ และวันนี้เอมก็เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับคนทำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย"

ตอนเห็นภาพครั้งแรกเรารู้สึกโกรธมากไหม ?
"มากค่ะ โกรธมากว่าทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมต้องถ่ายก้น"

ส่วนตัวเราได้ถามเขาไหมว่าเอาภาพเราไปได้ยังไง ?
"ก็คือที่คุยกับคนทำนะคะ วันนั้นเขาอยู่กับเอมและเขาก็เข้ามาขอมือถือเอมไปใช้เพราะว่าอยากขอจะแชร์ฮอตสปอตเพื่อคุยกับแฟนเขา แต่สุดท้ายเขาก็มาขอโทษและขอให้เอมให้อภัย ซึ่งเอมก็อธิบายกับเขาไปว่าสิ่งที่เขาทำมันส่งผลร้ายแรงมาก เพราะคนมองไม่รู้ว่าเอมใช้ภาพโป๊สร้างกระแส"

พอจะบอกได้ไหมว่าคนที่เอาภาพเราไปแชร์คือใคร ?
"เขาเป็นพริตตี้ค่ะ และตอนนั้นเขาคงเอาภาพนี้ไปแชร์ให้กลุ่มพริตตี้ด้วยกันดู"

เรารู้ข่าวนี้ได้ยังไงว่ามีภาพหลุดเราถูกแชร์ในอินเตอร์เน็ต ?
"ที่บ้านโทรมาบอกค่ะ ซึ่งตอนนี้หนูสงสารพ่อกับแม่มาก แต่หนูก็ยอมรับนะว่าหนูพลาดเองเหมือนกันที่ถ่ายภาพแบบนั้นเก็บไว้ในมือถือ เพียงแค่หนูอยากรู้อยู่อย่างเดียวก็คือคนที่เขาเอาภาพหนูไปปล่อยเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร เขาเกลียดหนูมากเลยเหรอ"

หลังจากนี้จะมีการนัดเคลียร์กับพริตตี้คนนั้นไหม ?
"คือตอนแรกตั้งใจจะคุยค่ะ แต่ว่าติดต่อเขาไม่ได้ก็เลยตัดสินใจแจ้งความเลยดีกว่า ซึ่งสุดท้ายพอติดต่อเขาได้ปุ๊ปเขาก็บอกว่าขอโทษ เขาเห็นว่ามันอาร์ตดีก็เลยเอาไปแชร์ต่อ หนูก็ได้แต่ด่าเขาไปว่าอาร์ตบ้าอาร์ตบออะไรละ"

ยืนยันว่าภาพนี้ไม่ได้มาจากฝีมือเราที่ทำไปเพราะต้องการสร้างกระแส ?
"หนูไม่เคยคิดเลยว่าจะใช้วิธีนี้สร้างกระแส เพราะกระแสมันทำให้หนูมันเสียมาทั้งชีวิตอยู่แล้ว อีกอย่างหนูก็แก่แล้วด้วยนะคะพี่ ดังนั้นใครจะคิดอะไรก็คงต้องปล่อยให้คิดไปเถอะค่ะ"