ผลสอบพบทหารไม่ได้อุ้มนักธุรกิจยูเครน เหตุเข้าใจผิด
21 ธ.ค. - ความคืบหน้ากรณีจับแก๊งรีดไถเงินต่างชาติ จ.ภูเก็ต จากการสอบสวนทราบว่าเป็นความเข้าใจผิด ทหารไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรีดทรัพย์
จากกรณีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับตำรวจ สภ.ฉลอง ซ้อนแผนจับกุม นายบันดาน อินมัง อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พร้อมพวกอีก 5 คน และสารวัตรทหารบกอีก 5 คน ในข้อหารวมกักขังหน่วงเหนี่ยวและกรรโชกทรัพย์นักธุรกิจชาวยูเครน เมื่อช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.)
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าฯ ภูเก็ต พร้อมด้วย พลตรี ธีร์ณฉัฎฐ์ จินดาเงิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 ค่ายวชิราวุธ จังหวัดนครศรีธรรมราช และ พันตำรวจเอกจิรศักดิ์ เสียมสอน ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย พลตรีธีร์ณฉัฎฐ์ ยืนยันว่าทหารที่ถูกจับกุมไม่ใช่แก๊งทวงหนี้ และไม่ได้อุ้มหรือกักขังห่วงเหนี่ยวนักธุรกิจชาวยูเครนตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด เป็นการเข้าใจที่คาดเคลื่อนของสื่อมวลชน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการเข้าใจไม่ตรงกันของทหารและตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตที่ใช้กฎหมายคนละฉบับ
โดยทหารได้รับการร้องเรียนจากนักธุรกิจชาวยูเครนว่าถูกสามีภรรยาชาวยูเครนฉ้อโกงทรัพย์ 15 ล้านบาท หลบหนีมาอยู่ใน จ.ภูเก็ต จึงขอให้ทางทหารใช้กฎอัยการศึกดำเนินการ ทหารจึงเข้าเชิญตัวนายอิกอร์มาเจรจาเกลี่ยไกล่ที่ศูนย์ปฏิบัติการรักษาความสงบแห่งชาติ จ.ภูเก็ต ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นหนี้สินกับผู้เสียหายที่มาแจ้งกับทหารจริง และยินยอมเดินทางมาเจรจาตกลงกันโดยดี แต่ภรรยาของนายอิกอร์ซึ่งไม่ได้เดินทางมาด้วย และเข้าใจผิดทางการสื่อสาร จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ
ภายหลังการชี้แจง นายบันดาลขอความเป็นธรรมกับสื่อว่า ไม่ได้เข้าไปจับกุม อุ้ม หรือกักขัง หน่วงเหนี่ยวนักธุรกิจชาวยูเครน แต่มาเป็นล่ามและคนขับรถเท่านั้น แต่ถูกตำรวจดำเนินคดีดังกล่าว
ส่วนตัวแทนบริษัทชาวยูเครนที่มาทวงหนี้นายอิกอร์ ชี้แจงว่าบริษัททำธุรกิจด้านเกมคอมพิวเตอร์กับบริษัทนายอิกอร์ แต่ทางบริษัทนายอิกอร์ไม่จ่ายเงินให้ตามสัญญา และหลบหนีมาอยู่ที่ประเทศไทย จึงเดินทางมาติดตามทวงหนี้ดังกล่าว แต่ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทนายอิกอร์ แต่ตำรวจและรัฐบาลยูเครนทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว จึงขอให้ทหารไปช่วยเจรจากับนายอิกอร์ ไม่ได้ข่มขู่คุกคามหรือกักขังหน่วงเหนียวแต่อย่างใดตามที่ภรรยาของนายอิกอร์ไปแจ้งความกับตำรวจ. - สำนักข่าวไทย