พี่สาว เมีย"อาหลอง" โต้ ไม่ใช่ครอบครัวเห็นแก่เงิน โชว์ บ้านรวย แถมเป็นเหลนเจ้าเมือง

กรณีที่ลูกชายโพสต์ข้อความไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของอาหลอง ฉลอง ภักดีวิจิตร ผู้กำกับชื่อดังนั้น ล่าสุด มีเสียงของพี่สาวของเจ้าสาว ที่ออกมาระบุว่า น้องสาวตนไม่ได้แต่งงานเพราะเงิน เพราะครอบครัวของเจ้าสาวก็เป็นคนมีฐานะ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จังหวัดศรีสะเกษว่า จากกรณีที่ นายฉลอง ภักดีวิจิตร อายุ 83 ปี ศิลปินแห่งชาติ ปี 2556 และเป็นผู้กำกับภาพยนตร์และละครชื่อดัง ได้เข้าพิธีมงคลสมรสกับ นางสาวพิมพ์สุภัค อินทรีย์ อายุ 38 ปี สาวชาวศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมาและล่าสุดมีข่าวว่าลูกชายหรือ คุณกัญจน์ ภักดีวิจิตร ได้โพสต์ข้อความแสดงความไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานในครั้งนี้

โดยผู้สื่อข่าวได้ขอเข้าไปสอบถามเรื่องนี้กับ นางสาวระวิสะรา อินทรีย์ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของ นางสาวพิมพ์สุภัค เจ้าสาวของนายฉลอง ภักดีวิจิตร ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ถึงกับตะลึง เพราะบ้านหลังดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก ภายในบ้านตกแต่งอย่างหรูหรา ด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง โดยเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างสั่งตรงจากประเทศอิตาลีและประเทศสหรัฐอเมริกา

โดย นางสาวระวิสะรา เล่าว่าตนเองเป็นนักลงทุนเล่นหุ้นอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีฐานะร่ำรวยมาก ได้ส่งเงินมาสร้างบ้านหลังนี้ให้พ่อแม่ รวมทั้งน้องสาวทั้ง 3 คน ได้พักอาศัยอยู่ โดยสร้างเสร็จมานานกว่า 4 ปีแล้ว ด้วยเงินค่าก่อสร้าง รวมทั้งการตกแต่ง มูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตนรู้จักกับนายฉลองมานานซึ่งการที่น้องสาวของตนรู้จักกับอาฉลอง ภักดีวิจิตร ตนคิดว่าเป็นอุบัติเหตุมากกว่า นางสาวระวิสะรา กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าอายุของน้องสาวของตนจะห่างกันกับอาฉลองมากถึง 45 ปี แต่ว่าตนเคารพในการตัดสินใจของทั้งสองฝ่าย ซึ่งระหว่างที่คบกันทั้งสองคนก็รักกันดี

ส่วนกรณีที่ คุณกัญจน์ ภักดีวิจิตร ซึ่งเป็นลูกชายของอาฉลอง ภักดีวิจิตร ได้โพสต์ข้อความแสดงความไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานในครั้งนี้นั้น คงมีเหตุผลส่วนตัว ตนเห็นว่า ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลส่วนตัว ตนเข้าใจลูกๆ ของอาหลองดี แต่ความรักดังกล่าวก็เป็นความต้องการของอาหลองเองพราะว่าอาหลองมีความสุขมากที่ได้แต่งงานกับน้องสาวของตน น้องสาวตนก็มีความสุข เพราะความรัก หากใครไม่ได้พบพานด้วยตนเองคงจะไม่ทราบ

นอกจากนี้ยังขอฝากสื่อทุกแขนง รวมถึงในโลกออนไลน์ว่า ให้เกียรติที่บ้านและตระกูลเราด้วย ครอบครัวเราไม่ได้ต้องการเงินและบ้านเราไม่ได้เดือดร้อน เพราะครอบครัวตนเป็นเหลนเจ้าเมืองศรีสะเกษ และมีเงินเหลือเฟืออยู่แล้ว