แจ้งความถูกครูหนุ่มโพสต์ภาพอนาจารแบล็คเมลบนเฟซบุ๊ค

ครูสาวอัตราจ้างเข้าแจ้งความตำรวจสภ.เมืองพิษณุโลก ถูกครูหนุ่มวัย 30 ปีโพสต์ภาพอนาจารบนเฟซบุ๊ค หลังแยกทางเมื่อรู้ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว รู้จักกันทางเฟซเมื่อปี2557 คบกันสักระยะถ่ายคลิ๊ปเก็บไว้ เมื่อฝ่ายหญิงตีจากรู้ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว แต่ครูหนุ่มยังไม่ยอมเลิก ส่งข้อความขู่และโพสต์ภาพอนาจารบนเฟซก่อนปิดเฟซทิ้ง เจ้าทุกข์ทนไม่ไหว แจ้งความเอาผิดถึงที่สุด พร้อมไปร้องเรียนต่อที่ศูนย์ดำรงธรรมจ.พิษณุโลกและจ.กำแพงเพชร

วันที่ 6 มกราคม 2558 ที่สภ.เมืองพิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเหตุคดีหมิ่นประมาท แพร่ภาพอนาจารบนเฟซบุ๊ค เพื่อข่มขู่และประจานฝ่ายหญิงให้อับอาย จนฝ่ายหญิงทนไม่ไหว ต้องมาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจเร่งดำเนินการสืบสวนเอาผิดกับฝ่ายชาย โดยวันนี้ ฝ่ายหญิง ได้มาให้ปากคำเพิ่มเติมกับร.ต.ท.หญิงสุธาสินี โตมี พนักงานสอบสวนสภ.เมืองพิษณุโลก หลังจากวานนี้ 5 มกราคม 2558 ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.เมืองพิษณุโลกไว้แล้ว

ผู้เสียหายรายนี้เป็นครูอัตราจ้าง อยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก อายุ 25 ปี นามสมมติชื่อ นส. เอ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ถูกโพสต์ภาพโป้อนาจารเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊คโพสต์ใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า อรยา สุขปราณ มีภาพประจำตัวเป็นภาพผู้หญิงหน้าตาดี ได้โพสต์ภาพโป้อนาจารของตนบนเครือข่ายเฟซบุ๊ค เป็นภาพขณะที่ตนอยู่บนเตียงในโรงแรมแห่งหนึ่ง กับผู้ชายคนหนึ่ง จำนวน 11 ภาพ เห็นภาพใบหน้าของตนเองชัดเจน และอยู่ในสภาพโป้เปลือย ส่วนภาพผู้ชายที่อยู่ในหน้าไม่เห็นหน้า เมื่อมีผู้โพสต์ภาพบนเครือข่ายเฟซบุ๊ค เพื่อน ๆ ของตนได้เห็น และแจ้งให้ตนเองทราบ เพื่อน ๆ และตนเองเมื่อทราบเรื่องจึงทำการแคปเจอร์หน้าจอดังกล่าวไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐาน

ผู้เสียหาย เปิดเผยต่อว่า พอจะรู้ว่า ผู้ที่โพสต์ภาพทำให้ตนเสื่อมเสียอับอาย เป็นผู้ชายคนหนึ่ง อายุ 30 ปี เป็นครูอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ปัจจุบันมาช่วยราชการอยู่ที่จ.กำแพงเพชร เป็นผู้ชายที่ตนเคยคบหากันเป็นแฟนเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา โดยหลังจากที่โพสต์ภาพอนาจารของตนบนเฟซบุ๊คได้ประมาณ 2 ชั่วโมง เฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า อรยา สุขปราณ ได้ปิดตัวเองไป ตนเองรู้สึกอับอายอย่างมาก เพื่อน ๆ ได้ช่วยกันเก็บหลักฐาน และมาแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกับผู้ชายคนนี้ที่สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวานนี้ และวันนี้ได้มาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยหลังจากนี้ ตนจะไปร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ที่ศูนย์ดำรงธรรมพิษณุโลกและกำแพงเพชร เพื่อให้ช่วยเหลือเอาผิดให้ถึงที่สุด

นส.เอ เปิดเผยต่อว่า ตนรู้จักกับผู้ชายคนนี้ได้ 1 ปีแล้ว ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา โดยรู้จักกันทางเฟซบุ๊คของกลุ่มเพื่อน จากนั้นก็ตนกับผู้ชายคนนี้ก็คบหากันเรื่อยมาจนสนิทสัมพันธ์กัน และมีอยู่ช่วงหนึ่ง ขณะที่มีความสัมพันธ์กันในสถานที่แห่งหนึ่ง และตนได้ใช้โทรศัพท์มือถือของตนถ่ายคลิ๊ปวิดีโอเก็บไว้ ต่อมาเมื่อคบกันระยะหนึ่งตนได้รู้ว่าผู้ชายคนดังกล่าวมีครอบครัวแล้ว มีลูกแล้ว 2 คน และภรรยาของผู้ชายคนดังกล่าวก็มาพูดคุยกับตน แม้ว่าตนจะชอบผู้ชายคนนี้ ตนก็จำต้องแยกทาง และย้ายสถานที่ทำงานไปกรุงเทพฯ

ต่อมา ตนได้กลับมาทำงานเป็นครูอัตราจ้างที่เดิมที่จังหวัดพิษณุโลก ผู้ชายคนดังกล่าวทราบ จึงพยายามติดต่อกลับมา แต่ตนไม่อยากไปยุ่งแล้ว และบอกว่าตนมีแฟนใหม่ไปแล้ว ให้เลิกติดต่อกัน แต่ผู้ชายคนดังกล่าวยังตามตื้อไม่เลิก โดยเปิดเฟซบุ๊คชื่อว่า เมียน้อยร้อยเล่มเกวียน และส่งข้อความข่มขู่ พูดคุยมาบอกว่า รู้นะว่ากลับมาทำงานที่เดิม จะติดตามราวีทุกอย่าง ไม่ให้มีความสุข และด่าคนที่ตนอ้างว่าเป็นแฟนตน พร้อมสร้างชื่อเฟซบุ๊คมาให้อีก 4-5 ชื่อ ยังติดต่อตามราวีมาทางเฟซบุ๊คของตนอีก

ตนกับเพื่อนจึงรายงานไปทางเฟซบุ๊คและพยายามไล่ปิดเฟซดังกล่าว ผู้ชายคนนี้ยังไม่ยอมเลิก ไปติดต่อเฟซบุ๊คของเพื่อนที่ทำงาน โดยขอชื่อและรหัสมา โดยอ้างว่าจะไปขอคืนดี และเข้าไปเพิ่มเพื่อนของตนทั้งหมดในเฟซบุ๊ค จนกระทั่งมาเจอเฟซบุ๊คของเพื่อนชายคนหนึ่ง และคิดว่า เป็นแฟนใหม่ของตน จึงเข้าไปคุย และโพสต์ภาพโฟ้อนาจารไปให้เพื่อนของตนดูทางเฟซบุ๊ค

นส.เอ เผยต่อว่า ตนทนไม่ไหว จึงได้ปิดเฟซบุ๊คของตนเอง แต่ล่าสุดเชื่อว่าผู้ชายคนดังกล่าวได้ทำการเปิดเฟซบุ๊คใหม่ โดยใช้ชื่อว่า อรยา สุขปราณ ใช้ภาพผู้หญิงหน้าตาดีเป็นรูปประจำตัว และเข้ามาขอเป็นเพื่อนกับกลุ่มเพื่อนตน กระทั่งเมื่อเป็นเพื่อนกันแล้ว วันที่ 4 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊คชื่ออรยา ได้โพสต์ภาพนิ่งกิจกรรมบนเตียงของตนจำนวน 11 ภาพ เป็นภาพเปลือย โดยเห็นใบหน้าตนชัดเจน แต่ปิดบังใบหน้าผู้ชาย เพื่อน ๆ เพื่อนตนเห็นจึงแจ้งให้ตนทราบ ทำให้ตนอับอายอย่างมาก และเชื่อว่า ผู้ที่นำภาพโป้อนาจารของตนมาโพสต์บนเฟซบุ๊คต้องเป็นชายคนนี้ที่เคยมีความสัมพันธ์กับตน เพราะผู้ที่มีภาพดังกล่าว ก็มีเพียงตนที่เคยถ่ายคลิ๊ปวิดีโอไว้ แต่ไม่ทราบว่า ชายคนดังกล่าวนำภาพจากเครื่องโทรศัพท์ตนไปตอนไหน วันนี้จึง นำหลักฐานมาฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ชายคนนี้ให้ถึงที่สุด

ขอบคุณภาพและข่าวจาก http://www.phitsanulokhotnews.com/