ระวัง! เรื่องปากท้อง..จะทิ่มแทงสั่นคลอนอำนาจ...

หลังสถานการณ์การเมืองร้อนกรณีถอดถอนนักการเมืองผ่านพ้นไป โดยรวมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองขึ้นมา....แต่หลังจากนี้สิ่งที่รัฐบาลต้องเผชิญก็คือ ปัญหาเศรษฐกิจ...โดยเฉพาะค่าครองชีพของประชาชน...ที่ไม่มีท่าทีว่าจะลดลงมาเท่าที่ควรจะเป็น...

จริงอยู่แม้ขณะนี้ราคาน้ำมันจะลดราคาลงมาเป็นลำดับ...แต่นั้นเกิดจากสถานการณ์โลก เกิดจากการทำสงครามราคาของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ...ขณะที่กระแสเรื่องการจัดการพลังงานในประเทศยังมีปัญหาในหลายเรื่อง...

ไม่ว่าประเด็นการเปิดสัมปทานสำรวจปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่รัฐบาลยังเดินหน้าแม้จะมีมติของ สปช.ไม่เห็นด้วยกับการเปิดสัมปทานฯ จนทำให้กลุ่มภาคประชาชนที่ไม่เห็นด้วยและคัดค้านการจัดการพลังงานต้องการให้มีการปฏิรูปพลังงานฯจัดสรรผลประโยชน์ใหม่ ไม่พอใจและยังคงเดินหน้าคัดค้านผ่านสังคมออนไลน์ และแสดงออกอย่างชัดเจนโดยการยื่นหนังสื่อคัดค้านโดยตรงต่อตัวแทนรัฐบาล

การลดลงของราคาน้ำมันซึ่งทยอยลดลงติดต่อกันเป็นระยะ แต่ปรากฏว่า ราคาสินค้าอื่นๆ ไม่มีท่าทีปรับลดลงแต่อย่างใด มีเพียงกลุ่มผลิตภัณฑ์จากน้ำมัน และ เกี่ยวข้องกับภาคก่อสร้างเท่านั้นที่ลดลง ...ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เกิดประโยชน์โดยตรงต่อประชาชนทั่วไป...

ขณะที่ราคาสินค้าอุปโภค บริโภคที่เกี่ยวข้องกระทบโดยตรงกับประชาชน ยังไม่มีการปรับลดราคาลงมาแต่อย่างใด....ราคาอาหารสำเร็จรูป อาหารจานด่วน หรืออาหารตามสั่งยังเป็นราคาเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์บอกว่าจะหารือกับผู้ผลิตเพื่อปรับราคาลงมา....แต่บัดนี้ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้น

ข้ออ้างที่รัฐบาลและผู้ผลิตยกมาอ้างก็คือ ..แม้ราคาน้ำมันลดลงแต่ต้นทุนผู้ผลิตเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยทำให้ปรับราคาไม่ได้....สิ่งเหล่านี้สวนทางกับความรู้สึกของประชาชนโดยตรงเพราะ เวลาราคาน้ำมันขึ้นราคา..ผู้ผลิตหรือผู้ขายมักจะอ้างเหตุและปรับขึ้นราคาสินค้าอย่างรวดเร็ว....

วันนี้ราคาอาหารสำเร็จรูป อาหารจานด่วนยังไม่ปรับราคา ด้วยอ้างว่า แม้น้ำมันลดราคาแต่ราคาก๊าซหุงต้มปรับราคาขึ้น ดังนั้นต้นทุนยังไม่ลดลง...

นอกจากนี้ การขึ้นราคาก๊าซหุงต้มหรือ แอลพีจี ซึ่งมีการใช้เป็นพลังงานสำหรับรถยนต์โดยสารสาธารณอย่างแท็กซี่ ทำให้ มีการปรับราคาค่าโดยสารรถแท็กซี่เพิ่มขึ้น แทนที่จะลดลง ทั้งๆที่ราคาในตลาดโลกลดลง สิ่งนี้กระทบต่อชนชั้นกลางในเมืองโดยตรง ....สร้างความกังขาให้กับคนเหล่านี้พอสมควร

ประเด็นค่าครองชีพ..เป็นจุดอ่อนที่รัฐบาลต้องตระหนัก..เพราะจากการสำรวจล่าสุดของ "สวนดุสิตโพล"
ในประเด็น สิ่งที่ประชาชนคิดว่า "แย่ลง" หลังจากรัฐประหาร มากเป็นอันดับ 1ก็คือ ของแพง ค่าครองชีพสูง พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ที่สูงลิ่วถึง 87.24%

ประเด็นปากท้องไม่อาจมองข้าม เพราะกระแสความไม่พอใจแม้จะไม่ร้อนแรงวูบวาบแต่ หากไม่สามารถจัดการได้ การขยายตัวจะซึมลึก และ กว้างขวาง ...ถึงวันหนึ่งแรงประทุจะลุกลามยากจะดับได้ทัน ....และเชื่อหรือไม่ว่า....ประเด็นปากท้อง...เป็นประเด็นที่กลุ่มการเมืองฝ่ายที่เพี้ยงพล้ำกับลังรอคอย..หากรัฐบาลไม่สามารถจัดการได้ดี...วันนั้นกระแสตีกลับจะรุนแรงกลายเป็นแนวร่วมของฝ่ายตรงข้าม ที่วันนี้ขาดพลังต่อกรให้หวนกลับมาทวงอำนาจคืน..ก็เป็นได้......................

โดย....เปลวไฟน้อย