เต้ย พงศกร ย้ำชัด! ผมมีหลักฐาน ไม่เคยลืมบุญคุณใคร

ถือเป็นอีกหนึ่งดราม่าจานร้อนที่ใครหลายคนกำลังจับตามมองอยู่ในขณะนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับกรณีที่ "สุวิชชา แสนอวน" นักปั้นชื่อดัง เปิดฉากแฉหนักพฤติกรรมสุดทนของนักแสดงหนุ่ม "เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์" ว่าดังแล้วเชิดใส่ไม่เห็นหัว หนำซ้ำยังนิ่งเงียบไม่จ่ายเงินค่าหักเปอร์เซ็นต์ ก่อนยันด้วยหลักฐานเป็นสัญญาที่เซ็นไว้ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งตั้งแต่ร่วมงานมาได้เงินตอบแทนแค่ 20,000 บาท!!

โดยล่าสุดขณะที่หนุ่ม "เต้ย พงศกร" เดินทางมาร่วมงานประกาศผลรางวัล "Daradaily The Great Awards 4" เจ้าตัวก็ได้ถือโอกาสออกมาเคลียร์ประเด็นฉาวดังกล่าว พร้อมชี้แจงทุกรายละเอียดที่หลายคนกำลังสงสัยให้เราฟังว่า...

ล่าสุดกับกระแสข่าวที่ออกมาเราพอจะทราบเรื่องแล้วหรือยัง ?
"เรียบร้อยแล้วครับ ได้ยินตั้งแต่เช้าเลย (ยิ้ม)"

ส่วนตัวเรามีอะไรอยากจะชี้แจงในสิ่งที่เขาพูดบ้างไหม ?
"เอ่อ...ถ้าเรื่องสัญญานะครับ ทั้งพ่อแม่ผมและตัวผมเอง รวมไปถึงบริษัทที่ผมอยู่ตอนนี้ เราได้เคลียร์กันไปหมดเรียบร้อยแล้วนะครับ ซึ่งตัวสัญญาเองก็ได้หมดไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่ปี 2556"

แล้วอย่างเรื่องที่เขาบอกว่าเราเจอหน้าเขาแล้วไม่ทักทายอันนี้จริงหรือเปล่า ?
"ที่ผมเจอกับพี่เขาครั้งล่าสุดก็คืองานสวัสดีปีใหม่ดาราเดลี่ครับ ตอนนั้นเราบังเอิญเจอกันที่ลานจอดรถ แต่ผมจำได้นะครับว่าเราทักทายกันปกติ กอดกันปกติ เพียงแต่วันนั้นตัวผมเองดันรีบเพราะมีงานต่อก็เลยต้องรีบขอตัวออกมา ซึ่งตัวพี่เขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไร คือเราพูดคุยกันแบบปกติจริงๆ"

เรื่องเงินที่พี่เขาบอกว่าพี่เขาได้รับจากเราแค่ 20,000 บาท ซึ่งเขาควรได้มากกว่านี้ อันนี้มันคือยังไง ?
"ครับผม ก็คือว่าตอนนั้นอยู่ในสัญญาครับ เป็นช่วงที่ผมแสดงเรื่องคุณชายรัชชานนท์ แต่ผมก็ได้ให้ไปเรียบร้อยแล้ว 10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากละครออนแอร์แล้ว แต่ในส่วนที่ยังไม่ได้ให้ก็คือจะเป็นละครอีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้ออนแอร์ครับ"

ณ ตอนนี้ยังมีสิ่งที่จะต้องเคลียร์กับเขาอีกเยอะไหม ?
"เอ่อ...ทุกอย่างได้จบไปตั้งแต่ปี 2556 แล้วนะครับ"

แต่เหมือนการที่เขาออกมาพูดจะทำให้คนดูว่าเราเป็นฝ่ายผิด อันนี้เรามีอะไรที่อยากเคลียร์กับไหม ?
"ได้ครับผม เพราะปกติพี่เขาก็คุยกับคุณพ่อคุณแม่ผมอยู่แล้ว ขนาดวันปีใหม่เขายังโทรมาสวัสดีปีใหม่พวกท่านเลย"

ตั้งแต่มีข่าวออกมาเราได้มีการโทรศัพท์เพื่อไปพูดคุยกับพี่เขาแล้วหรือยัง ?
"ยังไม่มีโอกาสเลยครับ เพราะว่าเมื่อเช้าผมเองก็มีงาน พอตกเย็นก็ต้องวิ่งมางานนี้ต่อ แต่คาดว่าเดี๋ยวหลังจากนี้ก็อาจจะต้องไปพูดคุยกับพี่เขาครับ"

แสดงว่าก็อาจจะมีการเข้าไปขอโทษ ?
"คือทางเราไม่ได้ทำผิดอะไรนะครับ ทางเราทำตามกฎหมายทุกอย่าง และเรื่องหัก 10 เปอร์เซ็นต์ เราก็ให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่างเหมือนกัน อีกอย่างตัวผมเองไม่เคยลืมหนี้บุญคุณใครแน่นอนครับ ผมไม่มีทางทำแบบนั้น"

แล้วแบบนี้ในส่วนที่เป็นเงินจากละครเรื่องที่ยังไม่ได้ออนแอร์ อันนี้ก็คือว่าต้องรอให้ละครออนแอร์ก่อนใช่ไหม ถึงเราจะสามารถนำเงินไปให้พี่เขาได้ ?
"จริงๆ สำหรับเงินตรงนี้ผมได้มาครึ่งหนึ่งแล้วนะครับ ซึ่งตัวผมเองก็ได้จ่ายพี่เขาไปแล้วครึ่งหนึ่งเหมือนกัน ส่วนอีกครึ่งที่เหลือเราทั้งคู่ก็ต้องรอให้ละครออนแอร์ก่อน"

ส่วนตัวเรากลัวไหมว่าเรื่องราวจะบานปลายถ้าหากมีการขุดคุ้ยออกมาแฉเรื่อยๆ ?
"ไม่ครับผม เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิดอยู่แล้วครับ"

อย่างบางคนพอมีข่าวแบบนี้ออกมาเขาก็จะค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องภาพลักษณ์ ?
"ไม่เลยครับผม ผมมีความจริง พิสูจน์ได้ มีหลักฐานทุกอย่าง ไม่รู้สึกซีเรียสอะไรเลย"

ถ้า ณ ตอนนี้ พี่เขาดูอยู่เรามีอะไรอยากจะฝากบอกไปถึงเขาไหม ?
"เอ่อ...วันนั้นผมรีบด้วยครับ แต่ผมก็ยังทักทายพี่เหมือนเดิม ผมไม่เคยลืมบุญคุณพี่ ผมต้องขอบคุณพี่มากกว่าพี่พาผมเข้ามาในวงการนี้ ทำให้ผมได้รู้จักเส้นทางสายบันเทิง เส้นทางนี้ครับ (ยิ้ม)"

เจอหน้าก็ยังจะยกมือไหว้เหมือนเดิม ?
"ครับผม ผมยกมือไหว้พี่เขาทุกครั้งครับ"

สุดท้ายเราคิดว่าพี่เขาจะเข้าใจเจตนาเราและสิ่งที่เรากำลังชี้แจงไหม ?
"ผมเชื่อว่าเข้าใจครับ เพราะพี่เขาก็โต ๆ แล้ว อีกอย่างตัวพี่เขาเองก็เป็นคนสอนผมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องการแสดง การพูด การเข้าวงการ ทุกอย่างที่จำเป็นพี่เขาเป็นคนสอนครับ"