ผิง พิมพาภรณ์ เปิดใจเคลียร์!! ศึกสายเลือด ไฮโซตั๋ม
ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่ใครหลายคนกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ สำหรับศึกสายเลือดตระกูล "ลีนุตพงษ์" หลังอดีตนักแสดงสาว "ผิง พิมพาภรณ์"โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ในเชิงตัดญาติขาดมิตร "ไฮโซตั๋ม วิชชุดา" จากเหตุเขียนแฉปมรักร้าวตำรวจหนุ่ม
จนกระทั่งฝ่ายไฮโซสาวต้องออกมาสวนกลับแรงผ่านเฟซบุ๊ค และกลายเป็นประเด็นดราม่ารสแซ่บ ถึงขนาดมีการอ้างว่าถูกข่มขู่เพื่อให้กราบขอโทษกันเลยทีเดียว!!
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (12 ม.ค.) "ผิง พิมพาภรณ์" ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงทุกรายละเอียดพร้อมชี้แจงประเด็นร้อนดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับคู่กรณี "ไฮโซตั๋ม" ให้เราฟังแล้วว่า...
อธิบายสักนิดนึงทำไมจู่ ๆ ถึงได้ตัดสินใจโพสต์ข้อความลักษณะนั้นออกมา ?
"คือตอนที่ฝ่ายเขามีข่าวกับผู้ชายแล้วมีเรื่องสินบนตำรวจเข้ามา ตัวผิงเองเลยถูกคนโทรเข้ามาถามเยอะมาก ถามทั้งวันว่าเกิดอะไรขึ้น จนสุดท้ายผิงรู้สึกรำคาญ ผิงเลยตัดสินใจโพสต์ข้อความลงไปว่าแบบผิงไม่รู้จักนะ ผิงไม่ยุ่ง ซึ่งมันก็เลยกลายเป็นว่าเขาเองก็คงเดือด แล้วพิมพ์กลับมาว่าไม่อยากยุ่งเหมือนกัน แต่มันก็ดีแล้วค่ะ เพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่อยากยุ่งกันจริงๆ"
ตอนที่เห็นข้อความที่เขาเขียนมารู้สึกอย่างไรบ้าง ?
"จริงๆ ถ้าเขาเขียนสั้นๆ ว่าไม่อยากยุ่งผิงก็คงโอเคนะ แต่นี่เขียนแบบว่าคุณแม่ผิงเป็นเมียน้อย และผิงเป็นลูกของภรรยาคนที่สามสี่ห้าของคุณลุง ซึ่งผิงต้องบอกก่อนนะคะว่าคุณแม่ผิงเป็นภรรยาคนที่สองถูกต้องตามกฏหมาย ดังนั้นคำว่าเมียน้อยกับภรรยาคนที่สองมันไม่เหมือนกันแน่นอน เป็นคนไทยก็ควรที่จะต้องใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องด้วย"
ตอนนั้นเราเองรู้สึกยังไงบ้าง ?
"งงค่ะ เพราะเขาไม่ได้ศึกษามาก่อนเหรอว่าจริงๆ แล้วครอบครัวผิงเป็นอะไรยังไง และก็โกรธนะคะ เพราะเขามาว่าแม่เราแบบนี้ อีกอย่างมันไม่ใช่ความจริงด้วย แถมสิ่งที่เขาพูดยังทำให้คุณพ่อดูเสียอีก ดูเป็นผู้ชายเจ้าชู้ไปเลย ทั้งๆ ที่ตัวท่านทั้งคู่ก็มีหน้ามีตาในสังคม"
หลังจากที่เกิดเรื่องได้เข้าไปคุยหรือเคลียร์กันบ้างไหม ?
"คุณพ่อให้เข้ามาขอโทษอย่างที่เป็นข่าวค่ะ แต่ว่าตัวเขาเองตอบปฏิเสธที่จะมาขอโทษ เราก็เลยถือว่าไม่เป็นไร เพราะถ้าเขาไม่ได้เห็นแก่ผู้ใหญ่ก็ตามนั้นค่ะ"
อย่างเนื้อหาที่เขาออกมาบอกเรื่องขอโทษ เห็นว่ามีการขู่ตัดนิ้วด้วย ?
"ใครจะตัดนิ้วใครคะ นี่ไม่ใช่หนังจีนนะ (หัวเราะ) อันนี้ผิงต้องอธิบายก่อนนะคะว่าสิ่งที่คุณพ่อพูดออกไป เป็นในลักษณะของผู้ใหญ่เวลาดุเด็ก ยกตัวอย่างง่ายๆ เลย อย่างเช่น "เดี๋ยวตีตายเลย" ซึ่งเอาจริงๆ แล้วไม่มีใครเขาตีจนตายหรอก ส่วนสาเหตุที่คุณพ่อใช้คำว่านิ้วก็เป็นเพราะว่า นิ้วคือสิ่งที่เขาใช้พิมพ์สิ่งที่หยาบคายและสิ่งที่ไม่ถูกต้องออกมา ดังนั้นพ่อเลยแค่สื่อความหมายให้เขารู้เฉยๆ ว่าเขากำลังใช้นิ้วในทางที่ผิด แต่ถ้าเผื่อเขาจะแปลไปเป็นอย่างอื่นอีกเราก็ขอไม่คุยด้วยดีกว่า"
ตอนที่คุณพ่อบอกให้มาขอโทษ แล้วเขาไม่ขอโทษ คุณพ่อมีท่าทางโกรธไหม ?
"คุณพ่อก็แค่งงเฉยๆ ค่ะว่าเขาสอนกันมายังไง แต่ไม่เป็นไรค่ะ ต่างคนต่างอยู่เนอะ บ้านเรามีความสุขกันดี"
ส่วนตัวเราเคยคุย เคยเจอหน้าเขาบ้างไหม ?
"ไม่เลยค่ะ ไม่เคยคุยไม่เคยเจอกันเลย"
สถานะของเรากับเขาตอนนี้ก็คือต่างคนต่างอยู่ไปเลย ?
"ใช่ค่ะ ตามนั้นเลย"
ที่ผ่านมาเราสองคนเคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อนไหม ?
"ไม่เคยเลยนะคะ"
ในส่วนญาติคนอื่นที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เขาได้มีการออกมาพูดถึงกรณีนี้บ้างไหม ?
"คุณพ่อก็บอกนะคะว่าญาติ ๆ บางคนเขาก็กังวล แต่คือเราก็ทำได้ดีที่สุดเท่านั้นจริงๆ ซึ่งตัวผิงเองก็ต้องยอมรับตามตรงเหมือนกัน ว่าที่ผิงโพสต์ผิงต้องการแค่ตัดรำคาญ เนื่องจากว่าผิงถูกคนโทรเข้ามาถามเยอะมาก เพราะเรื่องมันไปกระทบความมั่นคงของชาติอะไรก็ไม่รู้"
มีใครพยายามเป็นกาวใจให้กับเราทั้งคู่บ้างไหม ?
"ไม่นะคะ แต่ก็อย่าเลยปวดหัวไม่เอาแล้ว"
ถ้าหากหลังจากนี้เขามีข้อความอะไรมาอีก เราจะดำเนินการถึงขั้นฟ้องร้องเลยไหม ?
"จริงๆ ทนายก็อยากให้ดำเนินคดีนะคะ เพราะมันไม่ถูกกับการที่ปล่อยให้ใครสักคนมาว่าพ่อว่าแม่เรา แต่ตัวผิงเองก็ต้องคิดดูก่อน ถ้าเพลียมากก็คงต้องขอปล่อยผ่าน แต่ถ้าไม่เพลียก็ขอสู้นิดนึง (ยิ้ม)"
สุดท้ายถ้าหากเขายอมขอโทษจริง ๆ เราก็อาจจะโอเคขึ้น ?
"ตอนนี้ก็ไม่ได้ต้องการคำขอโทษแล้วค่ะ เพราะว่ามันคงไม่จริงใจ ดังนั้นก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า อย่าพาดพิงถึงกัน อย่าใช้คำหยาบก็พอค่ะที่รัก (ยิ้ม)"
เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นการตัดสัมพันธ์ทางสายเลือดเลยไหม ?
"เอาจริง ๆ มันก็ไม่ควรจะออกมาในรูปนี้หรอกนะคะ แต่ในเมื่อมันมาถึงขึ้นนี้แล้วเราก็คงทำอะไรอย่างอื่นอีกไม่ได้"
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ