ร่ำไห้กราบขอขมาพ่อ ลูกสำนึกผิด หลังปล่อยเร่ร่อน รับกลับบ้านไปอยู่ด้วยกัน

ร่ำไห้กราบขอขมาพ่อ ลูกสำนึกผิด หลังปล่อยเร่ร่อน รับกลับบ้านไปอยู่ด้วยกัน

ร่ำไห้กราบขอขมาพ่อ ลูกสำนึกผิด หลังปล่อยเร่ร่อน รับกลับบ้านไปอยู่ด้วยกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายอำเภอบางระกำและหน่วยงานภาครัฐเข้าไกล่เกลี่ยกรณี เฒ่าจิบ ทองมี ชาว ต.นิคมพัฒนาวัย 78 ปี เร่ร่อนออกจากบ้านพัก ลูกๆ 5 คน มาพบได้เปิดอกพูดคุยปัญหากัน เป็นเรื่องเข้าใจผิดฝ่ายพ่อน้อยใจลูกไม่เหลียวแล ส่วนฝ่ายลูกยืนยันไม่เคยทอดทิ้งปลูกบ้านให้อยู่ดูแลอย่างดี แต่ไม่พอใจและรับไม่ได้พ่อพาแฟนใหม่เข้าบ้าน สุดท้ายพ่อลูกปรับความเข้าใจกันได้ ร่ำไห้สวมกอดกัน ลูกๆ กราบขอขมาที่เคยล่วงเกิน และยอมกลับไปพักอาศัยที่บ้านลูกสาวตามเดิม

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 จากเหตุการณ์การนำเสนอข่าว พ่อเฒ่าจิบ ทองมี วัย 78 ปี ชาวบ้านภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 54/5 ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ได้เร่ร่อนออกจากบ้านพักที่ ต.นิคมพัฒนา และเดินออกไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย โดยให้เหตุผลว่าน้อยใจลูก 6 คนไม่เหลียวแล กระทั่ง นายวิรัตน์ แดงซิว อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านยางแขวนอู่ ม.6 ต.บางระกำมาพบเข้าขณะเดินอยู่ริมถนนใน อ.บางระกำ จึงรับมาอุปการะและพักอาศัยที่บ้านพักนายวิรัตน์

ความคืบหน้าวันนี้ หน่วยงานภาครัฐในอำเภอบางระกำและจังหวัดพิษณุโลกต่างให้ความสนใจกับปัญหานี้ ได้เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 111/6 บ้านยางแขวนอู่ ต.บางระกำ บ้านของนายวิรัตน์ แดงซิว ที่รับอุปการะพ่อเฒ่าจิบ พร้อมกับลูกๆ ของของพ่อเฒ่าจิบจำนวน 5 คน ได้มาพบปะพูดคุยเพื่อคลี่คลายปัญหา

หน่วยงานภาครัฐที่เข้ามาไกล่เกลี่ยครอบครัวพ่อเฒ่าจิบวันนี้ ประกอบด้วย นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก นายอนันต์ กิตติรัตนวศิน นายอำเภอบางระกำ พร้อมสถานสงเคราะห์วังทอง บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก นิคมสร้างตนเองบางระกำ สถานสงเคราะห์และแรกรับบ้านสองแคว บ้านมิตรไมตรีพิษณุโลก

ขณะที่คณะเจ้าหน้าที่พยาบาลจากโรงพยาบาลบางระกำได้ตรวจสอบสุขภาพพ่อเฒ่าจิบ โดยวันนี้ ลูกๆ ของพ่อเฒ่าจิบได้เดินทางมาด้วยจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายเจือ ทองมี นางสมใจ ไผ่เรือง นางแจ๊ว ชาตรี นายเริง ทองมี นายบุญเลิศ ทองมี ส่วนลูกชายคนเล็ก นายทิม ทองมี ทำงานอยู่ที่ภาคใต้ไม่สามารถเดินทางมาได้ โดยเดินทางมาพร้อมกับ นายสมบัติ จิตพินิจ นายก อบต.นิคมพัฒนา นายประสิทธิ์ ทองมี ผู้ใหญ่บ้านม. 3 ต.นิคมพัฒนา

นายอนันต์ กิตติรัตนวศิน นายอำเภอบางระกำ ได้พูดคุยสอบถามปัญหากับพ่อเฒ่าจิบ ถึงเหตุผลที่ออกมาจากบ้านพัก พร้อมกับพยายามไกล่เกลี่ยให้พ่อเฒ่าจิบ กลับไปพักอาศัยกับลูกที่ ต.นิคมพัฒนา ตามเดิม และได้ให้พ่อเฒ่าจิบ ได้พูดคุยอย่างเปิดอกกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีนายอำเภอบางระกำและหน่วยงานภาครัฐเป็นคนกลางทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและประคับประคองสถานการณ์เพื่อให้เรื่องจบลงให้ดีพ่อเฒ่าจิบ ได้มีโอกาสระบายถึงปัญหาต่างๆ กับลูกๆ ทั้ง 5 คน จับประเด็นได้ว่า น้อยใจที่ลูกๆ ไม่ค่อยเหลียวแล บางครั้งบางช่วงก็นอนอยู่บ้านคนเดียวเฉยๆ บางจังหวะเวลาก็ให้ลูกซื้อยามาให้แต่ก็ไม่สนใจ

ขณะที่ฝ่ายลูกๆ ก็อธิบายถึงเหตุการณ์ต่างๆ ว่าไม่ได้ทอดทิ้งพ่อ ลูกบางคนทำงานอยู่ต่างจังหวัด ขณะที่บ้านที่พ่อเฒ่าจิบอาศัยกับลูกที่ ต.นิคมพัฒนา คือบ้านของ นางสมใจ นั้น นางสมใจก็ดูแลด้วยดีตลอดมา ให้ข้าวให้อาหาร และพ่ออยากอยู่คนเดียวก็ปลูกบ้านให้อยู่ 1 หลัง แต่เหตุผลหลักๆ ที่ลูกๆ รับไม่ได้คือ พ่อเฒ่าจิบพาแฟนใหม่มาอาศัยอยู่ด้วย

กระทั่งล่าสุดเดือนมกราคมที่ผ่านมา พ่อเฒ่าจิบก็ได้ขายบ้านที่พ่อเฒ่าจิบอาศัยอยู่ไป และหายตัวออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2558 ลูกๆ ก็ไม่ทราบว่าพ่อเฒ่าจิบหายไปไหน กระทั่งวานนี้ นายวิรัฒน์ แดงซิว โทรศัพท์ไปบอก และมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ว่า ลูกๆ ทอดทิ้งไม่เหลียวแล บรรดาลูกๆ โดยเฉพาะ นางสมใจ ที่ดูแลพ่อเฒ่าจิบมาตลอด ได้ยืนยันกับสื่อมวลชนว่าไม่ได้ทอดทิ้ง เพียงแต่รับไม่ได้ที่พ่อพาแฟนคนใหม่มาอยู่

ทั้งนี้ หน่วยงานรัฐได้นั่งฟังเป็นคนกลางตลอด และพยายามจับประเด็นเหตุผลของแต่ละฝ่ายเพื่อไกล่เกลี่ยเหตุการณ์ให้ดี หลังจากต่างฝ่ายต่างได้ระบายความในใจของตน ลูกชายของพ่อเฒ่าจิบ ได้เข้าไปสวมกอดและร่ำไห้พร้อมกับพ่อเฒ่าจิบ สุดท้ายได้ข้อสรุปร่วมกันว่า พ่อเฒ่าจิบ ยินดีกลับไปพักอาศัยกับนางสมใจ ลูกสาวคนที่ 2 ที่ ม.3 ต.นิคมพัฒนา โดยลูกๆ จะรวบรวมเงินให้พ่อเฒ่าจิบได้ใช้เป็นรายเดือน

โดยมีข้อแม้ว่าพ่อเฒ่าจิบจะต้องไม่นำแฟนใหม่เข้าบ้าน และหลังจากไกล่เกลี่ยจนได้ข้อยุติ ลูกๆ ทั้ง 5 คน ได้คุกเข่ากราบเท้าขอขมาพ่อเฒ่าจิบถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยล่วงเกิน พร้อมมอบดอกบัวให้พ่อเฒ่าจิบ ขณะที่หน่วยงานภาครัฐที่มาไกล่เกลี่ยครั้งนี้ ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินอีกจำนวนหนึ่งให้กับพ่อเฒ่าจิบไว้ใช้จ่ายด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook