ปล่อยทิ้งเมืองพัทยาลูกทัวร์ 33 ชาวจีน

ปล่อยทิ้งเมืองพัทยาลูกทัวร์ 33 ชาวจีน

ปล่อยทิ้งเมืองพัทยาลูกทัวร์ 33 ชาวจีน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

20 ก.พ. - ตำรวจเมืองพัทยาเร่งสืบหาตัวไกด์สาวจีนปล่อยทิ้ง 33 นักท่องเที่ยวจีนที่ซื้อแพคเกจเหมาเที่ยวไทย เร่งเอาผิดหาเป็นไกด์เถื่อน

พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เปิดเผยกรณีนักท่องเที่ยวจีนกว่า 30 คน ถูกไกด์ปล่อยทิ้งริมหาดจอมเทียน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 ก.พ.) ว่า จากการประสานกับ พ.ต.ท.สถาพร สงวนสุข สว.สทท.กก.2 บก.ทท. เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือทราบว่าเป็นนักท่องเที่ยวมาจากมณฑลเจ้อเจียง ทั้งหมดมีอาการตื่นตระหนกเพราะกลัวว่าจะไม่ได้เดินทางกลับประเทศ หลังจากซื้อแพจเก็ตทัวร์ในประเทศจีนราคา 2,399 หยวน คิดเป็นเงินไทย 12,000 บาท มาประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา

โดยซื้อแพจเก็ตทัวร์จากประเทศของตน ในราคา 2,399 หยวน คิดเป็นเงินไทย 12,000 บาท และมาเที่ยวเมืองพัทยาเมื่อวันที่ 18 ก.พ. เข้าพักที่โรงแรมย่านจอมเทียนแล้ว 2 วัน มีไกด์นำเที่ยวเป็นหญิงชาวจีน อายุ 20 ปี และมีพฤติกรรมพยายามให้นักท่องเที่ยวจ่ายเงินเพิ่มอีกคนละ 6,900 บาท แต่หลายคนปฏิเสธเนื่องจากซื้อแพ็คเกจทัวร์แบบเหมาจ่ายมาแล้ว แต่มีบางส่วนยอมจ่ายเงินไปประมาณ 20 คน เป็นเงิน 138,000 บาท จากนั้นก็ถูกปล่อยทิ้งทั้งหมดในเมืองพัทยา จึงต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พ.ต.อ.สุขทัศน์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นบริษัทนำเที่ยวต้องเป็นผู้รับผิดชอบ หากไม่ดำเนินการใด ๆ จะต้องถูกดำเนินคดี ส่วนไกด์ชาวจีนรายนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นไกด์นำเที่ยวถูกต้องหรือไม่ หากเป็นไกด์เถื่อนจะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะถือว่าทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย

ด้าน นายไพศาล ซื่อธานุวงค์ อายุ 40 ปี เลขาธิการชมรมมัคคุเทศก์ภาษาจีนกลาง กล่าวว่า จากการสอบถามเบื้องต้นผู้เสียหายทราบว่าเดินทางโดยเครื่องบินมาลงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นมีบริษัทนำเที่ยวในประเทศไทยแห่งหนึ่งพร้อมไกด์หญิงชาวจีนดังกล่าวมารับเพื่อพาไปเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ ก่อนมาพัทยา การปล่อยทิ้งนักท่องเที่ยวเท่ากับสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย และอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกวดขันเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะลักษณะนี้ไม่ได้ขึ้นเกิดเป็นครั้งแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดมีตัวแทนจากบริษัทนำเที่ยวมาแสดงความรับผิดชอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและยืนยันว่าบริษัทไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของไกด์รายนี้ หลังเกิดเหตุพยายามติดต่อไกด์คนดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทพร้อมจะดูแลนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อย่างเต็มที่ - สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook