แกะรอยวงจรปิดล่า 2 คนร้ายวางบึ้มกลางเมืองนราธิวาส

แกะรอยวงจรปิดล่า 2 คนร้ายวางบึ้มกลางเมืองนราธิวาส

แกะรอยวงจรปิดล่า 2 คนร้ายวางบึ้มกลางเมืองนราธิวาส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

21 ก.พ. - ตำรวจเร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุวางระเบิดคาร์บอมบ์กลางเมืองนราธิวาสไว้ได้ 2 คน เป็นคนขับรถกระบะซุกระเบิดมาจอดหน้าร้านคาราโอเกะที่เกิดเหตุ ก่อนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายอีกคนขับตามมารับตัว ขับหลบหนีไปทาง อ.ยี่งอ ขณะที่ ผวจ.นราธิวาส เตรียมหารือตำรวจประกาศพื้นที่เขตชุมชนใน 13 อำเภอเป็นเขตปลอดหมวกกันน็อค

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (21 ก.พ.) นายปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วยนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส ลงพื้นที่พบปะชาวชุมชนถนน ณ นคร พร้อมนำช่างโยธาเข้าสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดวานนี้ ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย รวม 47 หลัง แยกเป็นเสียหายหนัก 13 หลัง ปานกลาง 19 หลัง และเสียหายเล็กน้อย 15 หลัง รวมทั้งนำช่างเข้าซ่อมระบบสาธารณูปโภค ทั้งไฟฟ้า น้ำประปา และโทรศัพท์ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้กันตามปกติ

ขณะที่เทศบาลเตรียมจัดหากล้องวงจรปิดมาติดตั้งเพิ่มเติมบริเวณหัว-ท้ายของที่ตั้งชุมชนอีก 2 ตัว ในส่วนของจังหวัดนราธิวาสเตรียมหารือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อประกาศพื้นที่เขตชุมชนของทั้ง 13 อำเภอ เป็นพื้นที่ปลอดหมวกกันน็อค เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุส่วนใหญ่จะใส่หมวกกันน็อคอำพรางใบหน้า ทำให้ยากในการติดตามจับกุมคนร้ายผู้ก่อเหตุ

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ จำนวน 4 จุด เป็นภาพคนร้ายแต่งกายชุดสีดำขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดงดำ เห็นป้ายทะเบียนไม่ชัด ตามหลังรถกระบะมิตซูบิชิ สตราด้า ที่ประกอบระเบิดเป็นคาร์บอมบ์ มาจากถนนหน้า สภ.เมืองนราธิวาส แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกอีซูซุ มาจอดตรงจุดเกิดเหตุหน้าร้านโดโด้คาราโอเกะ จากนั้นคนขับรถกระบะ ซึ่งสวมเสื้อสีแดง กางเกงขายาวที่เข้ม ลงจากรถกระบะ ไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไปทางแยกทางเข้าศาลเจ้าแม่กวนอิม ก่อนขับมุ่งหน้าไปทาง อ.ยี่งอ

อย่างไรก็ตาม เหตุลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้นวานนี้ (20 ก.พ.) ทำให้ร้านคาราโอเกะบางร้าน ที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ขึ้นป้ายเซ้งร้านติดไว้ที่บริเวณหน้าร้าน เนื่องจากเกิดความหวาดวิตกว่าอาจจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีกในอนาคต - สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook