พ่อแม่น้องจีโน่เศร้า บอกเหมือนสูญเสียหมดสิ้น
จากกรณีที่ น.ส.จันทราลักษณ์ หรือ ออย อายุ 20 ปี ก่อเหตุลวง นายณขจร กิจฤกษ์ไทย หรือ จีโน่ อายุ 18 ปี ไปให้แฟนหนุ่ม นายพชร หรือ กัส อายุ 19 ปี ราดน้ำมันและจุดไฟเผาทั้งเป็น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2557 บริเวณศาลารอรถโดยสารประจำทาง จ.สมุทรสาคร โดยผู้ต้องหาอ้างว่าทำไปเพราะแค้นที่แฟนถูกข่มขืน ล่าสุด เมื่อวันนี้ (20 มี.ค.) นายณขจร ได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากรักษาตัวอยู่ที่ รพ. เป็นเวลา 84 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (20 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่วัดสุวรรณรัตนาราม หรือวัดแคราย อ.กระทุ่มแบน บรรยากาศพิธีรดน้ำศพ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยนายวิษณุ กิจฤกษ์ไทย อายุ 43 ปี พ่อของน้องจีโน่ ยังทำใจไม่ได้ ยืนเกาะโลงศพของลูกชายตลอดเวลา และมีบางครั้งก็ร้องไห้ออกมา
นายวิษณุ กับ นางรัชวรรณ กิจฤกษ์ไทย อายุ 41 ปี พ่อและแม่ของน้องจีโน่ กล่าวว่า วันนี้ครอบครัวของตนเหมือนสูญเสียหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง เพราะน้องจีโน่เป็นทั้งความรักของพ่อแม่ และความหวังเดียวที่พ่อแม่มีอยู่ พ่อและแม่เลี้ยงลูกด้วยความรัก ให้ลูกทำอย่างที่ลูกรัก แม้ลูกจะไม่ชอบการเรียนพ่อกับแม่ก็ไม่บังคับ
ส่วนที่ลูกของตนเอง ถูกผู้ต้องหาทั้งสองคนกล่าวหาถึงการกระทำบางอย่าง จนทำให้สังคมที่ไม่รู้ความจริง มองลูกของตนเองในทางลบนั้น ก็อยากจะบอกว่าวันนี้ลูกของตนไม่อยู่ตรงนี้แล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นน้องจีโน่ไม่มีโอกาสได้พูด ได้แก้ไขข้อกล่าวหาใดๆ เพราะน้องไม่สามารถที่จะพูดได้
จะมีเสียงเปล่งออกมาบ้าง ก็เป็นเพียงแค่สัญญาณที่ทำให้พ่อแม่รับรู้ ว่าน้องกำลังพยายามเรียกพ่อกับแม่ ซึ่งพอพ่อแม่ได้ยินเสียงลูกก็ทั้งดีใจและหัวใจแทบจะสลายไปในเวลาเดียวกัน เพราะต้องเห็นลูกทนทุกข์ทรมานอย่างที่ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ณ วันนี้ ตนเองอยากเห็นความเป็นธรรมทางกฎหมายที่จะมอบให้แก่ดวงวิญญาณของน้องจีโน่และครอบครัว เพราะวันนี้ลูกของตนเองต้องมานอนในโลงศพ แต่คนที่ทำให้ลูกของตนเองเสียชีวิต กลับยังได้กินอิ่มนอนหลับ และกลับเข้าสู่สังคมได้เหมือนเดิม
ทั้งนี้ ในส่วนความคืบหน้าในคดี พ.ต.อ.วิเชียร ประทุมรัตน์ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน กล่าวว่า เมื่อนายณขจรเสียชีวิตลง ก็จะต้องมีการตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในข้อหาร่วมกันเจตนาฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย แต่ก็ต้องรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อส่งอัยการ และตนเองจะเข้าไปดูแลการดำเนินคดีเองตลอด เพื่อเป็นการคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก มติชนออนไลน์ และ ษิทรา เบี้ยบังเกิด