พ่อกัส มือเผา "น้องจีโน่" ทั้งเป็น ย่องเงียบขอขมาศพ
จากเหตุการณ์ที่ นายขจร กิจฤกษ์ไทย หรือ น้องจีโน่ อายุ 18 ปีเศษ ถูกนางสาวจันทราลักษณ์ หรือ ออย อายุ 20 ปี แฟนสาว ลวงออกมาให้ นายพชร หรือ กัส อายุ 19 ปี จุดไฟเผาทั้งเป็นจนอาการสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2557 บริเวณริมถนนเศรษฐกิจ 1 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และต้องเข้ารับการรักษาตัวในห้อง ICU ของโรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพมหานครเรื่อยมา จนกระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา รวมระยะเวลาที่ต้องเข้ารับการรักษาตัว 84 วัน
ซึ่งต่อมานายวิษณุ กิจฤกษ์ไทย กับ นางรัชวรรณ กิจฤกษ์ไทย บิดาและมารดาน้องจีโน่ พร้อมกับญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ของจีโน่ ก็ได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม ที่วัดสุวรรณรัตนาราม หรือวัดแคราย อ.กระทุ่มแบน เป็นเวลา 5 คืน และจะทำพิธีฌาปนกิจศพในวันพุธที่ 25 มีนาคม 2558 เวลา 17.00 น. นั้น
ในวันนี้ (24 มีนาคม 2558) เวลา 14.00 น. ก่อนที่จะถึงวันเผาศพจีโน่ เพียงแค่ 1 วันนั้น ปรากฏว่า นายไพรัช พ่อของนายพชร (กัส) ก็ได้เดินทางมาที่วัดสุวรรณรัตนาราม เพื่อขอขมาต่อหน้าศพน้องจีโน่ โดยบรรยากาศที่วัดวันนี้ มีเพียงพ่อและแม่ของน้องจีโน่ อยู่กันสองคนเท่านั้น ซึ่งเมื่อนายไพรัชฯ เข้ามาถึงก็ได้ยกมือไหว้พ่อกับแม่ของจีโน่ จากนั้นก็มีการพูดคุยกันสักพักหนึ่ง โดยทางพ่อกับแม่ของจีโน่สามารถทำใจรับสภาพที่เกิดขึ้นได้แล้ว จึงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ และยอมให้นายไพรัชฯ ได้เข้าไปจุดธูปขอขมาศพ ขอขมาต่อดวงวิญญาณของจีโน่
ซึ่งนายไพรัชบอกว่า ตนเองตั้งใจที่จะมาขอขมาดวงวิญญาณของจีโน่ และมาขอขมาแทนลูกชายที่ทำร้ายจีโน่จนถึงแก่ความตาย
ด้าน นายวิษณุ กิจฤกษ์ไทย พ่อของจีโน่ ก็ได้จุดธูปบอกกับลูกด้วยเช่นกันว่า วันนี้พ่อของกัสได้มาขอขมาดวงวิญญาณจีโน่แล้ว ก็ขอให้จีโน่อย่าได้โกรธแค้น หรือมีบ่วงอาฆาตต่อกันอีกเลย ขอให้ลูกไปสบาย ให้อโหสิกรรมคนที่ทำร้ายให้ลูกต้องเจ็บและเสียชีวิต ให้หมดเวรหมดกรรมต่อกัน จะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้อีกในชาติหน้า ขอให้ลูกไปรอพ่อกับแม่ แล้ววันหนึ่งพ่อกับแม่จะตามไป เพื่อที่จะได้มาเกิดใหม่เป็นครอบครัวเดียวกัน
นายไพรัช พ่อของนายพชร หรือ กัส ก็ได้กล่าวกับ นายวิษณุ และ นางรัชวรรณ กิจฤกษ์ไทย พ่อและแม่ของจีโน่ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้น ตนเองและแม่ของกัส รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก ยิ่งเมื่อรู้ว่าจีโน่เสียชีวิตก็ยิ่งทำให้รู้สึกผิดแทนลูก และเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ก็คิดจะไปเยี่ยมจีโน่ที่โรงพยาบาลแต่ไม่กล้าไป กระทั่งพอทราบว่าน้องจีโน่เสียชีวิต จึงตัดสินใจเดินทางมาขอขมาศพที่วัด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ตนเองพร้อมยอมรับ เพราะรู้ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องเสียใจ และโกรธแค้นแทนลูกอย่างแน่นอน ส่วนลูกชายหรือกัสนั้นไม่กล้าที่จะมาด้วย โดยหลังจากนี้ตนและคนในครอบครัวก็รู้ว่า ลูกชายจะต้องได้รับโทษทางกฎหมายอย่างแน่นอน ซึ่งก็หนีไม่พ้นความทุกข์ที่พ่อแม่ของกัสจะได้รับเช่นเดียวกับทุกข์ของพ่อแม่จีโน่
ขณะที่ทางด้านของ นายวิษณุ และ นางรัชวรรณ กิจฤกษ์ไทย พ่อและแม่ของจีโน่ ก็บอกกับนายไพรัช พ่อของนายกัส มือเผาจีโน่ทั้งเป็นว่า วันนี้ที่พ่อของกัสกล้ามากราบขอขมาศพน้องจีโน่นั้น ก็ทำให้พ่อกับแม่รู้สึกปลดปล่อยสบายใจขึ้นมาก เพราะนี่คือสิ่งที่ทางครอบครัวผู้สูญเสียต้องการมากที่สุด เพื่อให้ดวงวิญญาณของจีโน่ ไปอย่างสงบไม่มีห่วงผูกมัดใดๆ แต่ที่ต้องการให้มาจริงๆ คือ ผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งกัส และ ออย แต่เมื่อไม่กล้ามาให้ทางพ่อของกัสมาแทน ก็รู้สึกดีใจและขอบคุณ
ตนและภรรยาไม่ได้รู้สึกโกรธพ่อของกัส เพราะคงไม่มีพ่อแม่คนไหนสอนลูกให้ทำอย่างนี้แน่นอน แต่เมื่อเด็กๆ ขาดความยั้งคิดทำอะไรลงไป โดยไม่นำปัญหามาปรึกษาพ่อแม่ จึงทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น สุดท้ายแล้วทั้งสองครอบครัวก็มีแต่สูญเสีย และเสียใจไม่แพ้กัน ซึ่งตนก็ขออโหสิกรรมให้กับคนที่ทำร้ายลูก เพื่อให้ดวงวิญญาณของลูกไปสู่ภพภูมิที่สุคติ
ทั้งนี้ สำหรับการจัดงานสวดพระอภิธรรมศพให้กับ นายณขจร กิจฤกษ์ไทย หรือ จีโน่ ในคืนสุดท้ายนั้น ทางครอบครัวได้มีการฉายหนังที่จีโน่ชอบ เรื่อง Fast & Furious 6 (เร็ว แรงทะลุนรก 6) กับ เรื่องสุดเขตสเลดเป็ด มาฉายให้จีโน่และผู้มาร่วมงานได้ดู ส่วนวันฌาปนกิจศพนั้น ทางเพื่อนๆ จากโรงเรียนเก่ายอแซฟอุปถัมภ์ ที่เรียนมาด้วยกันจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็จะมาเล่นดนตรีหน้าโลงศพให้จีโน่ฟัง ก่อนที่จะทำพิธีเผาศพ
ขณะที่ในเรื่องของการดำเนินคดีทางกฎหมาย ล่าสุดทาง พ.ต.อ.วิเชียร ประทุมรัตน์ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดี ได้ยื่นหลักฐานต่ออัยการจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขอให้มีคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน