ซ้อมรบโชว์ อนุพงษ์ เล็งผิดเป้า ฮ.ถล่มทหาร-เจ็บ19

ซ้อมรบโชว์ อนุพงษ์ เล็งผิดเป้า ฮ.ถล่มทหาร-เจ็บ19

ซ้อมรบโชว์ อนุพงษ์ เล็งผิดเป้า ฮ.ถล่มทหาร-เจ็บ19
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยิง จรวด พลาด ถูก หน่วยจู่โจม รอ. คุมฝึกสาหัส กห.สั่งสอบทันที โต้ลั่น-อาวุธเก่า!

ตะลึงกลางลานซ้อมรบของหน่วยรบพิเศษ ลพบุรี เฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดพลาดเป้าถล่มพวกเดียวกันเองเจ็บเกือบ 20 นาย ต่อหน้าต่อตาผบ.ทบ.และนายทหารที่มาชมการซ้อมรบ เผยจัดซ้อมรบครั้งใหญ่สมมติเหตุการณ์ส่งทหารราบโจมตีเป้าหมาย โดยเฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดถล่มทางอากาศนำร่องไปก่อน โดยซัดออกไป 4 ลูก แต่มี 2 ลูกตกเข้ากลางกองทหารราบ เสียงดังสนั่นหวั่นไหวทหารกระเด็นกระดอนไปคนละทาง รีบนำส่งร.พ. โดยมี 5 นายรวมทั้งนายทหารระดับ"ร.อ."เจ็บสาหัส ผบ.ทบ.รุดเยี่ยมพร้อมสั่งตั้งกก.สอบหาสาเหตุชี้น่าจะมาจากการสื่อสารผิดพลาด หรือจรวดเก่าเก็บจนระบบควบคุมทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ รมว.กลาโหมยัน อาวุธไม่ใช่ของเก่าแต่อาจจะผิดพลาดทางระบบอิเล็กทรอนิกส์

ทหารซ้อมรบพลาดยิงถล่มพวกเดียวกันเอง เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 ม.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.พร้อมคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพบก เดินทางมาชมการฝึกซ้อมทดสอบขีดความสามารถของทหารหน่วยรบพิเศษ เพื่อสรุปแนวทางในการพัฒนาหน่วยรบในการป้องกันประเทศ ที่สนามฝึกบ้านท่าเดื่อ ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี โดยมีพล.ท. ภุชงค์ รัตนวรรณ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) พร้อมคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดลพบุรีต้อนรับ

การฝึกซ้อมทดสอบขีดความสามารถของทหารหน่วยรบพิเศษครั้งนี้ มีกำลังพลจากกองพลรบพิเศษที่ 1 กรมรบพิเศษที่ 1, 2, 3 กองพันจู่โจม และศูนย์การบินทหารบก ร่วมฝึกรวมกำลังประมาณ 500 นาย หลังการฝึกผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ระหว่างการฝึกโจมตีเป้าหมายทางภาคพื้นดิน มีทหารราบจำนวน 79 นาย เคลื่อนที่เข้าไปทางพื้นดิน โดยมีเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้ายิงจรวดชนิด 2.75 ม.ม. สนับสนุนทางอากาศ สมมติเป้าหมายเป็นบังเกอร์ของข้าศึก แต่เกิดความผิดพลาดขึ้นเมื่อจรวดที่ยิงออกจากเฮลิคอปเตอร์ตกใส่กลุ่มทหารราบที่กำลังบุกเข้าไปยังจุดหมายเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ทหารที่กำลังจะเข้าโจมตีเป้าหมาย ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจำนวนหลายสิบนาย

กองอำนวยการฝึกได้รับแจ้งทางวิทยุ จึงได้ส่งรถพยาบาลจำนวน 3 คัน ที่ไปคอยอำนวยความสะดวกในสถานที่ฝึก เข้าไปรับคนเจ็บที่ถูกสะเก็ดระเบิดส่งโรงพยาบาลอานันทมหิดล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทหารแห่งเดียวในจังหวัดลพบุรี หลังทหารที่ได้รับบาดเจ็บถูกลำเลียงส่งถึงโรงพยาบาลอานันทมหิดล พล.ต.พรเลิศ จำเรียง ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ระดมแพทย์และพยาบาลกว่า 30 นาย มาช่วยเหลือคนไข้อย่างเร่งด่วน และนำเข้าห้องผ่าตัดทันที 2 นาย เพราะถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ท้องและขา สำหรับการฝึกยังดำเนินต่อไป เนื่องจากการฝึกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่ด้วยกัน จนกระทั่งถึงเวลา 12.00 น.จึงเสร็จสิ้นภารกิจในการฝึกช่วงแรก

จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ พร้อมคณะนายทหาร เดินทางไปดูอาการคนเจ็บที่โรงพยาบาล แพทย์และพยาบาลรายงานว่าทหารที่ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บและถูกส่งตัวมารักษามีด้วยกันทั้งหมด 19 นาย เป็นนายทหาร 1 นาย และมีทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 5 นาย ประกอบด้วย ร.อ.สุรชาติ เทพอำนวย ผบ.ร้อยกองพันจู่โจม, ส.อ.มนตรี ถิตะปุระ, ส.อ. สุนทร จันทร์งาม, พลทหารอนงค์ จันยานน และพลทหารปราโมทย์ หาเวียนศิริ สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บไม่มากนักประกอบด้วย ส.อ.ชาญชัย บุตรลา, ส.อ. สมยศ พลอยงาม, ส.อ.กนก ศศิธร, ส.อ.ภาสกร แสงสิงห์, ส.อ.สันติภาพ สุวรรณรังษี, ส.อ.ศราวุธ วิ วัฒนาการ, ส.อ.วีระพจน์ ชอบแก้ว, พลทหารต้อย วรวรรณ, พลทหารอาทิตย์ เรือนเพชร และพลทหารสิทธิพร สถานพงษ์ ส่วนที่เหลือได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย โดยทั้งหมดสังกัดกองพันจู่โจม หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ

รายงานข่าวแจ้งว่าสาเหตุที่เครื่องบินยิงจรวดผิดเป้าหมายทำให้มีกำลังทหารที่กำลังฝึกภาคพื้นดินได้รับเจ็บจำนวนมากครั้งนี้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากการสื่อสารกันระหว่างภาคพื้นดินกับเครื่องเกิดความผิดพลาด หรือไม่ก็อาจจะมาจากการที่หลังจากเครื่องบินยิงจรวดออกไปแล้ว 4 ลูก และจรวด 2 ลูกเกิดความผิดพลาด ซึ่งอาจเป็นของเก่าที่เก็บไว้นานเกินไป ทำให้พุ่งไม่ถึงเป้าหมาย และตกใส่กำลังทหารที่กำลังฝึกภาคพื้นดินได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ซึ่งมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของกระสุนที่เกิดการชอร์ต หรือข้อขัดข้องทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วหนึ่งครั้ง ส่วนในรายละเอียดยังไม่ทราบ แต่คิดว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก ให้ผู้บัญชาการทหารบกตรวจสอบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

"กองทัพมีการดูแลอาวุธยุทโธปกรณ์ และในการส่งกำลังบำรุงมีขั้นตอนอยู่ และคงต้องมีการพัฒนาอะไรที่เก่าต้องปล่อยไปตามอายุการใช้งาน คงต้องดำเนินการต่อไป ทั้งนี้อาวุธที่นำมาใช้ทดสอบซ้อมยิงครั้งนี้ไม่ใช่อาวุธเก่าสามารถใช้ประจำการอยู่ได้ ซึ่งกองทัพจะดูแลสวัสดิการกำลังพล และผู้บัญชาการทหารบกมีความห่วงใยเรื่องนี้" พล.อ.ประวิตร กล่าว

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขณะนี้คงต้องมีการตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ก่อนว่าเกิดจากอะไร เบื้องต้นน่าจะเกิดการเครื่องยิงจรวดที่ติดกับเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้า แต่คงต้องมีการตรวจสอบทั้งจากนักบินและยุทโธปกรณ์ที่ทำการฝึก ทั้งนี้อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นการยิงจรวดพลาดเป้า ซึ่งตามแผนการซ้อมกำลังรบพิเศษจะนัดรวมพลเพื่อเข้าตีที่หมายตามภารกิจของกองร้อยจู่โจม ซึ่งก่อนเข้าตีต้องยิงสนับสนุนทางอากาศโดยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้ายิงจรวดขนาด 2.75 มิลลิเมตร ใส่เป้าหมาย แต่จรวดกลับพลาดเป้ามาตกในที่รวมพลของทหารกองร้อยจู่โจมที่เตรียมพร้อมเข้าตีตามภารกิจ เหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บจำนวน 19 นาย สาหัส 5 นาย เป็นนายทหาร 1 นาย นายสิบ 12 นาย พลทหารอาสา 6 นาย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.อ.อนุพงษ์ ให้ดูแลกำลังพลให้ดีที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook