จา พนม เคลียร์ดราม่า..ลืมบุญคุณคน
มุ่งมั่นเดินตามฝันในวงการฮอลลีวูด จนทำให้นักแสดงหนุ่มขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ "จา พนม ยีรัมย์" หรือ "โทนี่ จา" หายหน้าไปนานกว่า 2 ปี พร้อมกับประเด็นข่าวฉาวที่หลายคนยังคงสงสัย ไม่ว่าจะเป็นสัญญากับอดีตบ้านเกิด "สหมงคลฟิล์ม" รวมถึงเหตุการณ์การสูญเสียพ่อบังเกิดเกล้า และ "พันนา ฤทธิไกร" อาจารย์คนสำคัญในชีวิต จนถูกสังคมตั้งคำถามว่า ผู้ชายมากฝีมือคนนี้ เป็นคนลืมบุญคุณคนจริงหรือเปล่า !?
ซึ่งล่าสุดขณะที่หนุ่ม จา พนม เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวภาพยนตร์ไทยดีกรีฮอลลีวูด "คู่ซัดอันตราย Skin Trade" เจ้าตัวก็ได้ถือโอกาสออกมาเคลียร์คำถามที่คนไทยหลายคนยังคงค้างคาใจให้เราฟังแล้วว่า...
ห่างหายจากการสัมภาษณ์แบบนี้นานแค่ไหนแล้ว ?
"2 ปี เห็นจะได้นะครับ คิดถึงทุกคนเหมือนกัน คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ คิดถึงรอยยิ้มและความทรงจำดีๆ วันนี้มันก็เหมือนกับว่าได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ยังไงก็ต้องขอบพระคุณมากนะครับ"
2 ปีที่ผ่านมาเราทำอะไรบ้าง ?
"ก็หลักๆ คือไปทำหนังที่ต่างประเทศครับ เรียกว่าใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่โน่นเลยก็ได้ เพราะผมต้องฝึกภาษากับคิดคิวแอคชั่นด้วย"
เส้นทางการโกอินเตอร์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
"มีความสุขดีครับ เพราะเราได้เปิดโอกาสให้กับตัวเอง ได้เรียนรู้ในห้องเรียนขนาดใหญ่ ได้สร้างมิตรภาพกับคนเก่งๆ ในวงการภาพยนตร์หลายท่าน ถือว่าภูมิใจมากครับ"
ตอนนี้เรามีภาพยนตร์กี่เรื่องที่กำลังถ่ายทำ ?
"ถ้าหลักๆ ตอนนี้ก็มี 3 เรื่องครับ ที่กำลังจะออกฉายให้ได้ชมกัน ส่วนอีกหลายๆ เรื่องที่ติดต่อเข้ามาเราก็กำลังดูเรื่องบทกันอยู่ครับ"
หลายคนอาจสงสัยว่าตอนนี้ค่าตัวต่อเรื่องเราได้เท่าไหร่ ?
"จริงๆ ในระบบฮอลลีวูดเขาจะมีคนดูแลเรื่องตรงนี้ให้อยู่แล้วครับ แต่ถามว่าถึง 100 ล้าน หรือเปล่านั้น ผมบอกได้แค่ว่าชีวิตตอนนี้ดีขึ้นครับ มีความสุข ถือว่าโชคดีมากครับที่เราได้มีโอกาสทำในสิ่งที่เราอยากทำ (ยิ้ม)"
เรื่องสัญญากับทางสหมงคลฯ ตอนนี้เคลียร์กันจบหรือยัง ?
"อดีตก็คืออดีตครับ ความสำเร็จในเมืองไทยก็คืออีกก้าวหนึ่ง ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เคยลืม สหมงคลฯ ยังคงอยู่ในใจผมเสมอนะครับ เพราะท่านเป็นผู้มีพระคุณ"
กับเรื่องสัญญาถือว่าเป็นคดีความถึงขั้นฟ้องร้องเลยหรือเปล่า ?
"วันนี้เป็นวันแถลงข่าวภาพยนตร์ครับ ผมไม่ขอชี้แจงอะไรดีกว่า"
หลังจากเสร็จงานนี้เราจะหาโอกาสไปสวัสดีเสี่ยเจียงไหม ?
"ผมขอไม่ชี้แจงดีกว่าครับ เพราะหลักๆ เลยคือเราตั้งใจมางานนี้เพื่อมาแถลงข่าวภาพยนตร์ (ยิ้ม) อดีตก็คืออดีตนะครับ ยังไงเราก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป"
ช่วงที่ไปต่างประเทศมันก็มีกระแสข่าวเกี่ยวกับครอบครัว ซึ่งตัวพี่เองก็ยังไม่เคยออกมาเคลียร์ ?
"ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในใจผมตลอดครับ พ่อแม่อยู่ในใจผมตลอด ผมไม่เคยลืมท่าน และสิ่งหนึ่งที่ผมตั้งใจไว้มากที่สุดเลยก็คือ ผมอยากทำเพื่อทุกคน (ยิ้ม) ผมภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยมาก ผมบอกเพื่อนทุกคน ผมถือธงและเอารูปหลวงพ่อที่บวชให้ผมใส่กระเป๋าเสื้อ พร้อมกับพูดว่าผมมีหน้าที่ที่ผมต้องทำ ซึ่งผมได้ตัดสินใจเลือกทางเดินแล้ว ว่าผมจะสร้างสรรค์ศิลปะให้ชาวโลกได้รู้จัก ซึ่งนั่นคือเป้าหมายที่ผมอยากไปให้ถึงครับ"
ณ ตอนนี้พี่จามีอะไรอยากบอกคนไทย ที่ไม่เข้าใจในตัวเราบ้าง ?
"ผมเชื่อว่าภาพที่ออกมามันจะบอกทุกอย่างครับ ทุกคนจะได้เห็นว่าผมไปทำอะไรมาบ้างจากภาพต่างๆ ซึ่งสำหรับผมสิ่งที่ผมทำตรงนี้มันยิ่งใหญ่มาก ผมเชื่อว่าผมคิดถูกแล้ว เพราะผมคิดที่จะนำเอาศิลปะการต่อสู้ของเราไปเผยแพร่ต่อชาวโลก และถ้าทุกคนมองเห็นเจตนาของผมทุกคนก็จะเข้าใจครับ"
ตอนนี้พี่จาได้มีโอกาสกลับไปเจอคนที่บ้านแล้วหรือยัง ?
"อยู่ในใจเสมอ ฮู้บ่ อยู่ในใจเสมอ ฮู้บ่ บุญคุณมันไม่มีทางทดแทนได้สิ้นสุดหรอกครับ มันยังอยู่ในใจเสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถทดแทนได้ก็คือสิ่งที่เราทำวันนี้นี่ล่ะครับ"
แล้วกับกรณีที่อาจารย์ของเราเสียชีวิต เรามีอะไรจะพูดบ้าง ?
"ทุกคนอยู่ในใจเสมอครับ อยู่ในใจเสมอ ฮู่บ่ (ยิ้ม)"