สืบประวัตินักบินผู้ช่วย เยอรมันวิงส์ พบเคยป่วยเป็นโรค

สำนักข่าวต่างประเทศยังคงรายงานความคืบหน้าและแนวทางการสืบสวนของเหตุโศกนาฏกรรม เที่ยวบิน 4U9525 สายการบินเยอรมันวิงส์ ซึ่งประสบเหตุตกกระแทกเทือกเขาแอลป์ ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ภายหลังจากทางการฝรั่งเศสและลุฟต์ฮันซาแถลงการณ์สรุปว่า เหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ เกิดจากความตั้งใจของนักบินผู้ช่วย ทำให้ทั่วโลกรู้สึกตกใจกับผลลัพธ์การสืบสวนที่ออกมา

นายแอนเดรียส ลูบิทซ์ อายุ 28 ปี ชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นนักบินผู้ช่วยบนเที่ยวบิน 4U9525 สายการบินเยอรมันวิงส์ ที่ประสบเหตุ กลายเป็นบุคคลล่วงลับที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะเหตุใดเขาถึงตัดสินใจนำผู้โดยสารและลูกเรืออีก 149 คน เข้าสู่ห้วงของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ด้วยวิธีปิดล็อกตัวเองให้ห้องนักบิน โดยไม่เปิดประตูห้องให้นักบินหลักสามารถเข้ามาได้

จากการตรวจสอบประวัติของ นายแอนเดรียส ไม่พบข้อมูลทางอาชญากรรมหรือการก่อการร้ายแต่อย่างใด ส่วนเพื่อนร่วมงานและบุคคลใกล้ชิดของเขา ยืนยันว่า นายแอนเดรียส เป็นสุภาพบุรุษที่เคร่งขรึม สุขุม แม้จะเป็นคนเงียบๆ แต่ก็เป็นมิตรกับผู้อื่นดี

แต่ข้อมูลล่าสุดจากพยานแวดล้อมพบว่า นายแอนเดรียส เริ่มเข้าทำงานกับลุฟต์ฮันซา เมื่อเดือนกันยายน 2556 หลังจากประสบความสำเร็จในการฝึกอบรมทางการบินของบริษัท เพื่อนนักบินคนหนึ่ง เปิดเผยว่า นายแอนเดรียส เคยหยุดพักจากการฝึกอบรมไปถึง 6 เดือน เมื่อปี 2552 ทำให้การฝึกของเขาต้องหยุดชั่วขณะ เนื่องจากไปรักษาอาการเกี่ยวกับ Burn-out Syndrome หรือ ความเครียดที่เกิดจากภาวะคาดหวังเกี่ยวกับตัวเองสูง ส่งผลกระทบต่อการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้สมองไม่แล่น นอนไม่หลับ หรือ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง

อย่างไรก็ตาม ชาวโลกยังคงเกิดประเด็นสงสัยในตัว นายแอนเดรียส โดยเฉพาะกรณีที่อาจจะข้องเกี่ยวกับกลุ่มก่อการร้ายหรือไม่ ซึ่งทางการยังไม่ได้มีการสรุปแต่อย่างใด เพียงแต่ยืนยันว่าโศกนาฏกรรมเป็นเพียงเหตุที่เกิดจากความตั้งใจของนักบินผู้ช่วยเท่านั้น

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังคงต้องเสาะหาข้อมูลจากกล่องดำ กล่องที่ 2 ที่ยังสูญหายอยู่ มาใช้เป็นหลักฐานประกอบให้แน่ชัด แต่จากบันทึกเสียงเหตุการณ์บนเครื่องบินจากกล่องดำ กล่องที่ 1 ทำให้ทราบถึงข้อมูลที่น่าเศร้าใจ ผู้โดยสารบนเครื่องบินล้วนแต่ไม่ทราบว่า เกิดอะไรขึ้นที่ห้องนักบิน จนกระทั่งช่วงนาทีสุดท้ายก่อนโศกนาฏกรรม เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่วเครื่องบิน ก่อนที่เสียงดังกล่าวจะสิ้นสุดและดับลง

Source: ITV News