น่าคิด! นักบินผู้ช่วยเอี่ยว "เจอร์มัน วิงส์" ตกจริงหรือไม่?
น่าจับตามอง "เจอร์มัน วิงส์" ตกเพราะสาเหตุใด หลังสื่อนอกกระแสออกมาเปิดเผยข้อมูลบางส่วนที่สำนักข่าวกระแสหลักของตะวันตกและสหรัฐฯ ไม่เคยพูดถึง และนักบินผู้ช่วยมีส่วนในเรื่องนี้จริงหรือไม่
กรณีเครื่องบินของสายการบินเจอร์มัน วิงส์ ประสบเหตุตกบนเทือกเขาแอลป์ของประเทศฝรั่งเศส จนมีผู้เสียชีวิตยกลำ 150 ศพ อาจไม่สามารถปิดคดีได้อย่างง่ายๆ แม้ว่าสำนักข่าวทางยุโรปจะยืนยันกันไปแล้วว่า แอนเดรียส ลูบิทส์ นักบินผู้ช่วย เป็นคนจงใจทำเครื่องบินตก แต่ทางสำนักข่าวยักษ์ใหญ่ของประเทศสหรัฐฯ อย่าง ซีเอ็นเอ็น กลับไม่เชื่อว่า สาเหตุที่เครื่องบินตกจะมาจากนักบินผู้ช่วย
ทั้งนี้ วันที่ 30 มีนาคม 2558 เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น มีการตีพิมพ์บทความ "เครื่องบินเจอร์มัน วิงส์ ตก เรารู้อะไรบ้างจนถึงตอนนี้" ซึ่งเป็นการตั้งคำถามเพื่อเชิญชวนให้ผู้อ่าน วิเคราะห์ไปพร้อมๆ กันว่า แท้จริงแล้วเครื่องบินตกเพราะอะไรกันแน่ และสาเหตุมาจากนักบินผู้ช่วยจริงหรือ
ขณะที่ สัปดาห์ก่อนหน้า อัยการฝรั่งเศส แถลงว่า แอนเดรียส ลูบิทส์ นักบินผู้ช่วย มีพฤติกรรมที่ส่อว่าจงใจล็อกประตูห้องคนขับ ไม่ยอมให้กัปตันเข้าไป และตั้งใจทำให้เครื่องตก โดยหลังจากคำแถลงออกมา สำนักข่าวต่างๆ ก็พากันพุ่งเป้าไปที่ ลูบิทส์ ทันทีว่า เขาน่าจะมีอาการทางจิต ซึ่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า ลูบิทส์เคยไปรักษาตาก่อนที่เครื่องจะตก ทำให้งานนักบินผู้ช่วยที่ทำอยู่เกิดความเสี่ยง แต่ซีเอ็นเอ็นระบุว่า ยังไม่มีการยืนยันข้อมูล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่เคยออกมาเปิดเผยอาการป่วยของลูบิทส์เลยว่า ตกลงแล้ว เขาป่วยเป็นอะไรกันแน่ แล้วอาการป่วยของเขา คือ มูลเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องบินตกจริงหรือ และที่สำคัญลูบิทส์บังคับเครื่องบินพุ่งตกลงบนภูเขาเพื่ออะไรกันแน่
ด้าน หนังสือพิมพ์เยอรมัน "บิลด์" ตีพิมพ์สำเนาการถอดเสียงมาจากกล่องบันทึกเสียงในห้องคนขับที่เก็บกู้มาได้ และยืนยันว่า กัปตันได้ทุบประตูห้องคนขับพร้อมร้องตะโกนดังๆ ให้เปิดออกนั้น ทางซีเอ็นเอ็นระบุว่า ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า สำเนาการถอดเสียงนี้ถูกต้องหรือไม่ เพราะหน่วยงานภาครัฐไม่เคยเผยสำเนานี้ออกมาอย่างเป็นทางการ โดยซีเอ็นเอ็นตั้งคำถามว่า แท้จริงแล้ว เกิดอะไรขึ้นกันแน่ภายในห้องคนขับในนาทีสุดท้ายก่อนที่เครื่องจะร่วงตก เหมือนกับต้องการจะบอกทุกคนว่า ยังสรุปไม่ได้จริงๆ ว่า เครื่องบินตกเพราะสาเหตุใด
นอกจาก ซีเอ็นเอ็นแล้ว สื่อนอกกระแสอย่างเว็บไซต์ Whatdoesitmean.com ก็ตีพิมพ์รายงานอ้างจากคนเขียนที่ใช้นามแฝงว่า ซอร์ชา ฟาอัล ระบุว่า มีรายงานในทำเนียบเครมลินของรัสเซีย อ้างว่า การตกของเครื่องบินเจอร์มัน วิงส์ เกิดจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในการควบคุมของนาโต้ ทดสอบระบบป้องกันเลเซอร์พลังงานสูง แล้วเกิดความผิดพลาด ทำให้เลเซอร์พลังงานสูงไปทำลายเครื่องบินเจอร์มัน วิงส์ จนประสบเหตุตก เพื่อปกปิดความผิดพลาด จึงต้องโยนความผิดไปให้ที่ผู้ช่วยนักบินรายนี้ ซึ่งกล่องบันทึกเสียงพูดคุยในห้องนักบิน ยังได้ยินเสียงเหมือนโลหะมากระแทกที่ตัวเครื่องบิน จนสัญญาณเตือนภัยดัง ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบไป โดยข้อมูลส่วนนี้ สื่อตะวันตกไม่ได้นำเสนอ และเมื่อพิจารณาจากเศษซากเครื่องบินที่แหลกเป็นผุยผง จึงยืนยันได้ว่า เครื่องบินลำนี้ระเบิดกลางอากาศ ก่อนจะร่วงตกลงมา
รายงานของเว็บไซต์นี้ยังระบุอีกว่า บารัค โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร หลังจากรับรู้เรื่องนี้ เนื่องจากการทดสอบอาวุธของนาโต้เป็นเหตุให้เครื่องบินโดยสารตก เพราะโอบามาเคยแสดงความวิตกมาแล้วว่า การทดสอบอาวุธในลักษณะนี้อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องบินโดยสารที่บินอยู่แถวนั้นได้
จุดที่น่าสังเกตอีกอย่างก็คือ พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ทางสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ รีบออกมายืนยันทันทีว่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การก่อการร้าย ทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจสอบหลักฐานอะไรเลย และหลังจากนั้น หน่วยข่าวกรองของตะวันตกที่มีเอฟบีไอเป็นแกนนำ ก็รีบเทข้อมูลต่างๆ ให้สำนักข่าวของประเทศตัวเองพร้อมใจกันโยนความผิดไปที่ แอนเดรียส ลูบิทส์ นักบินผู้ช่วยรายนี้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบทความมาจากสื่อนอกกระแสอย่างเว็บไซต์ Whatdoesitmean.com และคนที่เขียนบทความที่ใช้นามแฝงว่า ซอร์ชา ฟาอัล ก็ยังตรวจสอบไม่ได้ว่า คือใครกันแน่ จึงยังไม่รู้แน่ชัดว่า บทความที่เขียนเป็นความจริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็น่าจะทำให้เห็นข้อมูลในอีกด้านหนึ่งว่า เครื่องบินเจอร์มัน วิงส์ ที่ประสบเหตุตกนั้น อาจไม่ได้มีสาเหตุมาจากนักบินผู้ช่วยอย่างที่สำนักข่าวตะวันตกประโคมข่าวก็เป็นได้