ยอมเปิดใจ! จอย อัจฉรียา เผยสาเหตุหย่าร้าง อ่ำ อัมรินทร์

มีเพียง "อ่ำ อัมรินทร์" เท่านั้นที่ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หย่าร้างกับภรรยาสาว "จอย อัจฉรียา" หลังจากที่อยู่กินมาเป็นเวลาเกือบสิบปี ทั้งยังมีลูกสาวเป็นโซ่ทองคล้องใจอย่าง "น้องแอลลี่" จนล่าสุด มีโอกาสได้เจอฝ่ายหญิงในงาน Exclusive Sneak Preview Of Cirque Du Soleil Quidam Live in Bangkok Show 2015 เลยมีโอกาสได้พูดคุยถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปิดใจครั้งแรกของเธอ โดยเผยว่า เรื่องจบมานานแล้ว สภาพจิตใจทุกคนดีขึ้นมาก และยังคงติดต่อพูดคุยกันได้เสมอ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องห่างกันนั้นเพราะปัญหาหลายอย่างที่สะสมมานาน

สภาพจิตใจกับเรื่องที่ผ่านมา?
"คือเรื่องมันผ่านมานานมากแล้วนะคะ สภาพจิตใจทุกคนตอนนี้ก็ดีขึ้น น้องแอลลี่ก็ทำใจได้ แต่ไม่อยากจะใช้คำว่าทำใจได้ แต่เขาเข้าใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะเราคุยกันค่อนข้างเยอะพอสมควร"

หลายคนไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น?
"ถ้าให้จอยระบุว่าเป็นเพราะอะไรคงจะยาก จอยว่าทุกๆ คนที่มีชีวิตคู่ ไม่ต้องแต่งงานก็ได้ ต่อให้เป็นแฟนกันเฉยๆ น่าจะทราบดีว่าเวลาเราอยู่กับใคร ใกล้ชิดกันมากๆ มันย่อมต้องมีปัญหาอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ความราบรื่นตลอดเวลา การที่แต่งงานมาสิบกว่าปี และรู้จักพี่อ่ำมาก่อนหน้านั้นอาจจะมีการไม่เข้าใจ และเราอาจจะไม่ได้คิดมาก่อนว่ามันเป็นปัญหา พอเราเก็บสะสมไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ตัว เราอาจจะคิดไปเองตรงที่ไม่ค่อยพูด คิดว่าช่างมันเดี๋ยววันหนึ่งคงผ่านไป พอมันสะสมไปเรื่อยๆ จนเรามานั่งคุยกันว่าต่างคนต่างไม่สบายใจ เลยตกลงแยกกันไปก่อนไหม ให้สภาพจิตใจดีขึ้นแล้วค่อยว่ากันใหม่"

เสียดายเวลาไหม?
"ไม่เสียดายเลย เพราะการแต่งงานคือมีทั้งเรื่องทีดีและไม่ดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือเรามีแอลลี่ และตลอดระยะเวลาถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีเลยค่ะ"

มีกระแสว่าอีกสาเหตุที่ทำให้เลิก เพราะฝ่ายชายเชื่อเรื่องลัทธิ ลัทธิหนึ่งเกินไป?
"ไม่ใช่นะ (หัวเราะ) ทำไมจอยไม่เคยได้ยินเลย ลัทธิอะไรไม่รู้ เราทั้งคู่นับถือศาสนาพุทธ ที่บ้านก็มีห้องพระ สิ่งที่เราทำคือไหว้พระปกติค่ะ ตอนที่อยู่ด้วยกันก็ไม่มีอะไรแปลกไป แต่เขาจะเป็นคนเป็นศิลปิน คิดอะไรไม่ค่อยเหมือนคนธรรมดา เพราะฉะนั้นบางอย่างที่เขาพูดคือเขาพูดเล่น แต่คนไปตีความอะไรก็ไม่รู้"

อาจเพราะจากการที่เขาเคยออกรายการ แล้วบอกว่าบางทีชอบอยู่คนเดียว พูดคนเดียว?
"หมายถึงจอยเป็นต้นเหตุให้พูดคนเดียวหรือเปล่า (หัวเราะ) คือเขาเป็นคนมีโลกส่วนตัวชอบอยู่คนเดียว แต่ถามว่ามันเป็นเหตุผลหรือเปล่า มันคงไม่ใช่เหตุผลใดเหตุผลหนึ่งค่ะ มันอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุเล็กๆจอยก็ไม่แน่ใจ เราเคยคุยนะว่าลงมากินข้าวกับแอลลี่หน่อยไหม พอเขารู้ตัวเขาก็จะมา คืออย่างที่บอกเขาเป็นคนศิลปิน คิดอะไรเยอะ มีโปรเจ็คในหัวเยอะมาก และอยากจะทำอะไรจะไม่ค่อยเรียงลำดับ พอคิดปุ๊บก็จะทำทุกอย่าง เขาเลยใช้เวลาอยู่กับตัวเองว่างานนี้จะต้องทำอย่างไร จะต้องลำดับอย่างไร บางทีเขาอาจจะไม่ได้อยากดึงตัวเองออกไป แต่บางทีลืมจนทำงานเยอะเลยไม่ได้ดึงตัวเองออก"

แสดงว่าก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสะสม?
"จอยก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อย่างที่จอยบอกมันมีหลายเรื่อง ไม่อยากเจาะจงว่าเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะการทำงานมันเป็นเรื่องดี และพี่อ่ำจะพูดตลอดว่าการที่เขาทำงาน เขาจะคิดถึงครอบครัว ทำงานได้เงินมาหาเลี้ยงครอบครัว เพราะฉะนั้นจอยก็ไม่อยากจะบอกว่าการที่เขาทำงานมันเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต้องแยกกัน"

ช่วงที่มีปัญหาอธิบายให้แอลลี่ฟังอย่างไรบ้าง?
"คุยกันประจำค่ะ คือมันง่ายนิดหนึ่งที่แอลลี่อยู่ในเหตุการณ์ตลอดเวลาอยู่แล้ว และจะอยู่กับจอย จอยใช้เวลาอยู่กับเขาเยอะมาก เขาเห็นและเข้าใจเวลาจอยอธิบายค่ะ"

ใช้คำว่ามีภาวะทางจิตได้ไหม?
"ใคร? พี่อ่ำอะนะ จอยว่าไม่ใช่นะ เพราะตอนนี้ยังคุยกันอยู่เรื่อยๆ พี่อ่ำยังไปรับแอลลี่ที่โรงเรียน วันเกิดแอลลี่ก็แวะมา เขาปกติดีทุกอย่าง ไม่มีภาวะอะไรอย่างนั้นเลย"

ใครเป็นคนตัดสินใจจบความสัมพันธ์?
"พี่อ่ำเป็นคนบอก ว่าการที่เขาเป็นแบบนี้มันอาจจะทำให้เราไม่เข้าใจกัน และตัวเขาก็อยากจะโฟกัสเรื่องงานมากๆ เพราะฉะนั้นถ้าจอยไม่สบายใจกับสถานการณ์ที่เป็นแบบนี้ เลยอยากให้ลองถอยออกมาดูก่อนไหม เพราะตอนนั้นจอยก็ไม่เข้าใจ เขาก็มีเหตุผลของเขา ต่างคนต่างยังไม่พร้อมที่จะรับฟังความเห็นของกันและกัน"

มีปัญหาเรื่องมือที่สามเข้ามาไหม?
"ไม่มีนะคะ เพราะเท่าที่แต่งงานกับพี่อ่ำมาไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงเลย อย่างที่พี่อ่ำบอกค่ะว่า เราตัดสินใจที่จะออกมาแบบนี้เป็นปีแล้ว เขาก็เคยบอกประโยคหนึ่งว่าเขาขอโทษที่ตอนนั้นไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขาอาจจะดูแลจอยได้ไม่ดีพอ เขาก็อยากจะไปขอโทษคุณพ่อคุณแม่จอย และถ้าวันหนึ่งจอยจะไปเริ่มใหม่กับใคร ก็ขอให้จอยเจอคนที่ดี สามารถดูแลจอยและแอลลี่ได้ดี ประมาณนี้ค่ะ"

หลังจากเกิดเรื่องได้พูดคุยกันบ้างหรือยัง?
"คุยตลอดค่ะ มีอัพเดตกันตลอด ว่าตอนนี้แอลลี่เป็นอย่างไรแล้ว กำลังทำอะไรอยู่ ทางพี่อ่ำก็มีส่งค่าเลี้ยงดู แต่จอยไม่อยากเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นค่ะ จอยรู้ว่าการทำงานของเขามันต้องใช้เงินค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นจอยคุยทำความเข้าใจกับเขาแต่แรกแล้วว่า เอาที่มันสบายใจนะพี่ แอลลี่เกิดมาจากความรัก เราจะเลี้ยงเขาด้วยความรัก จะไม่ปัดภาระอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ไปให้คนใดคนหนึ่งแน่นอนค่ะ"

ฝ่ายชายมีการพูดคุยอยากกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกไหม?
"ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันถึงขนาดนั้นค่ะ คงต้องปล่อยไป จอยว่าสถานการณ์ตอนนี้มันก็ดี คือเขาก็สบายใจกับสิ่งที่เขาทำ จอยก็สบายใจกับสิ่งที่จอยทำ และแอลลี่ก็มีความสุขดี ซึ่งตอนนี้จอยโฟกัสแอลลี่เป็นที่สุด อะไรก็ตามจอยไม่อยากให้กระทบจิตใจแอลลี่แม้แต่นิดเดียว"

โอกาสที่จะกลับมามีไหม?
"ไม่แน่ใจ จอยไม่อยากจะบอกว่ามันมีหรือไม่มี พอพูดไปเราก็ไม่รู้ว่าในอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ต่างคนต่างสบายใจกับสถานะแบบนี้ เราก็ทำหน้าที่พ่อกับแม่ที่ดีให้แอลลี่แล้ว"

ทางน้องมีการเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้งสองให้ดีขึ้นบ้างหรือเปล่า?
"ด้วยความที่เขาเป็นคนเข้าใจเยอะ เขาก็กลัวเหมือนกันว่าถ้าเจอแม่กับป๊ะป๊าจะทะเลาะกันไหม จะไม่เข้าใจกันหรือเปล่า จอยต้องเป็นคนอธิบายให้เข้าใจมากกว่าว่ามันไม่มี ที่ป๊ะป๊ามาเจอเพราะคิดถึงแอลลี่มาก และอยากเจอแอลลี่ ตอนนี้ก็ต้องขอบคุณเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ อย่างเขาทำงานถ้าไม่ว่างจะส่งรูปมาให้ดู ส่งไลน์มาอัพเดตว่ากำลังทำอะไร เหมือนว่าเขาไม่ได้หายไปไหนจากชีวิตของแอลลี่ค่ะ"