ชื่มชม! หนุ่มใหญ่จิตอาสา ตอนเด็กเคยตายแล้วฟื้น

(5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากประชาชน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา กล่าวชื่นชมกรณีคนทำดีมีจิตสาธารณะ ทำงานช่วยเหลืองานสาธารณะทุกอย่าง โดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นประจำทุกวัน จึงได้ติดตามหาข้อเท็จจริง ที่บ้านเลขที่ 51 ม.1 ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พบนายสมหวัง พังขุนทด อายุ 77 ปี อดีตข้าราชการครูตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนวังสนวน และภรรยา กล่าวว่าครอบครัวมีกัน 4 คน มีลูกสาวชื่อเพียงใจ อายุ 40 ปี เรียนจบปริญญาโท ตอนนี้ทำงานอยู่ต่างจังหวัด

โดยบุคคลที่ชาวบ้านกล่าวถึงเป็นลูกชายของตนเอง ชื่อนายธีรพงศ์ พังขุนทด ชื่อเล่น ทิดเม อายุ 48 ปี ซึ่งจะทำงานช่วยเหลืองานสาธารณะทุกอย่างเป็นประจำทุกวัน ทั้งซ่อมถนนหนทางที่ผุพัง อาสาจราจรโบกรถงานบุญวัด พบสุนัขตายกลางถนนช่วยขุดหลุมฝังให้ แจกขนม ไอติมแก่เด็ก เมื่อพบเห็นที่ใดก็จะทำเช่นนี้ตลอด โดยเริ่มตั้งแต่ ปี พ.ศ.2533 มานานกว่า 25 ปี ซึ่งจะใช้รถจักรยานยนต์เก่าสีแดงคู่ใจ ที่ประดับด้วยธงชาติไทยจำนวนหลายผืน พร้อมด้วยอุปกรณ์เช่นถังใส่น้ำ จอบ คราด และอื่นๆ ติดรถไปด้วยทุกครั้ง

นายสมหวัง เปิดเผยว่า เมื่อครั้งตอนทิดเมอยู่ชั้น ป.5 อายุประมาณ 11 ขวบ คืนหนึ่งก็มีฝนตกหนักตามประสาเด็ก ได้ออกจากบ้านไปหาจับกบ เพื่อนำมาประกอบเป็นอาหาร พร้อมกับเพื่อน 1 คน ซึ่งคืนนั้นก็ได้กบมาจำนวนหนึ่ง ระหว่างหาอยู่นั้น ลูกชายกับเพื่อนก็ได้พบกับลูกไฟ 1 ดวง มีลักษณะเป็นดวงไฟลูกใหญ่ลอยวนไปมาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งกลางทุ่งนา พอหลังจากนั้นกลับมานอนที่บ้าน

รุ่งเช้าลูกชายก็อยู่ในอาการนอนหลับ ปลุกอย่างไรก็ไม่ตื่น ซึ่งคล้ายกับคนตายไปแล้ว โดยเวลาประมาณ 1 นาที จึงจะหายใจครั้ง จึงได้ส่งรักษาที่ รพ.ด่านขุนทด และส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ลูกชายมีลักษณะอาการดังกล่าวเป็นระยะเวลา 28 วัน โดยที่แพทย์ก็ไม่ทราบสาเหตุของอาการป่วยครั้งนี้ ได้เพียงแต่ให้น้ำเกลือและอาหารเหลวทางสายยางเท่านั้น

กระทั่งครอบครัวได้รับการช่วยจากแม่ชีรูปหนึ่งสมัยนั้น อาการป่วยจึงค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งตั้งแต่นั้นมา ด.ช.เม ก็ตั้งใจที่จะทำงานช่วยเหลืองานสาธารณะต่างๆ เรื่อยมา กระทั่งเรียนจบชั้น ม. 6 ก็เลิกเรียน พร้อมทำงานจิตอาสาเต็มที่ตลอดมาถึงทุกวันนี้

ด้าน นายธีรพงศ์ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การทำความดีอย่างนี้ กลัวคนอื่นจะมองว่าบ้าหรือไม่ ได้รับคำตอบกลับมาว่า ไม่กลัว ส่วนใครจะคิดอย่างไรเป็นเรื่องของเขา รู้แค่ว่าผมทำทุกอย่างมานี้เพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม และมีในหลวงเป็นแบบอย่างเท่านั้นพอ โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน และตนก็จะทำความดีเช่นนี้ต่อไปตลอดชีวิตจนกว่าจะตาย