ต้องร่วมกันสร้างวัฒนธรรมปีใหม่ไทยที่ดีงาม

ต้องร่วมกันสร้างวัฒนธรรมปีใหม่ไทยที่ดีงาม

ต้องร่วมกันสร้างวัฒนธรรมปีใหม่ไทยที่ดีงาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้เป็นวันทำงานสุดสัปดาห์ของมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ ก่อนจะหยุดยาวเข้าเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งอีกนัยหนึ่งเป็นการเข้าสู่ปีใหม่ไทยอย่าเป็นทางการในช่วงวันที่ 13-15 เม.ย.

แน่นอนว่าในช่วงวันนี้และอีกวันสองวันการเดินทางเพื่อกลับภูมิลำเนา และการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวจะคึกคักเป็นพิเศษ รถราจะล้นถนนปานได ก็ขอให้ระมัดระวังในการเดินทาง มีน้ำใจในการใช้ถนนร่วมกันเพื่อให้ทุกคนไปถึงจุดหมายตามเป้าประสงค์ทุกคน อันตรายใดๆอย่าได้แผ่วพาน เพื่อจะได้กลับไปร่วมสนุกสนาม ทำบุญกับครอบครัว เพื่อนฝูง กันทุกคน

อย่างไรก็ตาม ก็อยากฝากอยากเตือนสำหรับเทศกาลแห่งความสุขรื่นเริงนี้ ว่า ช่วยกันดูแลรักษาสุขภาพให้ปลอดภัยอย่าได้ดื่มเครื่องดื่นแอลกอฮอล์จนเกินเลยจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุกันมากมายเหมือนทุกเทศกาลที่ผ่านมาด้วยแล้วกัน

นอกจากนี้ แน่นอนว่าการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลหยุดยาวเช่นนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งไทย เทศ เจ๊ก จีน ฯ คงมากมายกว่าปรกติหลายเท่า ก็อยากเชิญชวนให้ทุกคนโดยเฉพาะเรา คนไทยที่เป็นเจ้าบ้านช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการท่องเที่ยวที่ดีงาม ช่วยกันรักษาสถานที่ท่องเที่ยว และแสดงความเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างบ้าน ต่างเมืองที่มาเที่ยวในช่วงเทศกาลครั้งนี้ด้วย

ในช่วงที่ผ่านมา เราได้ยินข่าว เห็นข่าวพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาบ้านเราแล้วแสดงออกไม่เหมาะสมหลายอย่าง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน จนเป็นที่โจษจัน ซึ่งพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่สร้างความเสื่อมเสียนี้ ไม่เฉพาะในบ้านเราเท่านั้น แต่ในเกือบทุกที่ทั่วโลก มักเห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมเหล่านั้น

ในเรื่องนี้ ทางการจีนเขาตระหนัก ว่า เรื่องเหล่านี้เป็นที่เสื่อมเสียอย่างยิ่ง จนกระทั่งเขาออกกฎระเบียบเพื่อจะลงโทษคนจีนที่ไปแสดงพฤติกรรมเสื่อมเสียกันเลยทีเดียว

ทั้งนี้ทางการจีน ได้เริ่มทดลองใช้มาตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่รายงานพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ทั้งโดยตรงจากการพบเห็น หรือผ่านสื่อต่างๆ และหน่วยงานการท่องเที่ยวจีนภายใต้คณะกรรมาธิการแห่งรัฐ จะรวบรวมเพื่อพิจารณาสอบสวน โดยมีอายุความระหว่าง 1 - 2 ปี และผลการพิจารณาจะมีบทลงโทษตั้งแต่การปรับโดยเจ้าหน้าที่ และการลงโทษในชั้นศาล

ซึ่งการออกกฎดังกล่าวนักวิชาการของจีน จาง หลินหยุ่น รองคณบดี วิทยาลัยการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยเป่ยจิง ยูเนียน ให้ความเห็นว่า การออกกฎหมายบังคับทำโทษกับพฤติกรรมเหล่านี้ อาจจะยากในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นเรื่องจิตสำนึก ซึ่งต้องใช้เวลาในการให้ความรู้ แนะนำชี้แนะฯ จะได้ผลกว่า

ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยอย่างยิ่งกับนักวิชาการจีน ว่า การสร้างจิตสำนึกเป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว แก้ไขปัญหาได้ดีกว่าการออกกฎบังคับ

ดังนั้น ในส่วนของการท่องเที่ยวของเราชาวไทย อย่าลืมนะครับ ช่วยกันสร้างจิตสำนึกของนักท่องเที่ยวที่ดี ช่วยกันรักษาสถานที่ รักษาความสะอาด และความมีน้ำใจ เป็นการสร้างวัฒนธรรมการท่องเที่ยวที่ดี และสามารถรักษาแหล่งท่องเที่ยวให้มีความยั้งยืนในอนาคตได้ด้วย

และในการเล่นประเพณีสงกรานต์การรดน้ำ ที่จริงคือการฉีดน้ำ สาดน้ำกันมากกว่า ก็ควรรักษาความพอดีไม่มากเกินไป การแต่งเนื้อแต่งตัวควรจะพอเหมาะ อย่าให้เกิดปัญหาเกินเลย ที่มีการเปลื้องผ้าโชว์ขณะเล่นน้ำจนเป็นข่าวครึกโครมเหมือนปีที่ผ่านมาอีกเลย สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ต้องใช้จิตสำนึกในการสร้างวัฒนธรรมที่ดีงามเพื่อรักษาประเพณีที่ดีงามสืบไป

สุดท้ายก็ขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขกับเทศกาลปีใหม่ไทยกันทุกคนครับ.....

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook