โอละพ่อ! พิษณุโลกป่วน ข่าวมั่วรถตู้ตกเหว กู้ภัยค้นหาวุ่น
เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (9 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดกรณีข่าวลือแพร่สะพัดในพื้นที่ อ้างว่าเกิดอุบัติเหตุรถตู้ตกเหว พร้อมกับรถพ่วง 18 ล้อ บริเวณอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ทางการได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ แต่กลับไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นการปล่อยข่าวลือ หรือ นำเอาข่าวเก่ามาสร้างเรื่องหลอกเจ้าหน้าที่
ตามรายงานระบุว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยจากมูลนิธิประสาทบุญสถาน กู้ภัยนครไทย และกู้ภัยบูรพา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาสาธารณภัย เขต 9 พิษณุโลก และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ยุติปฏิบัติการค้นหาอุบัติเหตุรถตู้ตกเหวเป็นการชั่วคราว หลังจากที่คาดว่าข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพียงข่าวลือ
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งจากว่า เกิดอุบัติเหตุรถตู้ตกเหว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน ยังไม่สามารถช่วยเหลืออกมาได้ แต่ไม่ทราบพิกัดแน่ชัด จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยกันคนหาตามจุดที่ใกล้ตามที่รับแจ้ง แต่ก็ไม่พบว่ามีร่องรอยรถตกเหวในจุดตามแจ้ง แต่ทุกคนก็ได้พยายามช่วยกันค้นหาเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บตามที่ได้รับแจ้งให้เร็วที่สุด
นายเกรียงวิชญ์ เตชวิทย์ไวทิน นายอำเภอนครไทย เปิดเผยว่า กรณีนี้ได้รับคำสั่งมาจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จึงได้ลงพื้นที่มาช่วยค้นหาผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว แต่ปรากฏว่าหาไม่พบ ต่อมา พันตำรวจเอกนิคม สภาพพร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้พยายามติดต่อผู้ประสบอุบัติเหตุเพื่อตรวจเช็คหาพิกัดจากคลื่นสัญญาณโทรศัพท์แต่ก็หาไม่พบ กระทั่งพบข้อความจากสื่อออนไลน์มีพิรุธ คล้ายกับเป็นข้อความที่แชร์ส่งต่อกันและเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน
ขณะที่ นายแพทย์ศิษฎิคม เบญจขันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย ยืนยันว่า เหตุที่เกิดขึ้นมีญาติผู้ได้รับบาดเจ็บมารออยู่ที่โรงพยาบาลจริง แต่ทางโรงพยาบาลได้ตรวจสอบแล้วพบว่า รูปภาพที่ถูกส่งมานั้น เป็นภาพอุบัติเหตุรถตู้นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตกเหวที่ จ.แพร่ เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวได้มีคำสั่งให้ยกเลิกปฏิบัติการค้นหาผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว เนื่องจากพบว่าไม่มีรายงานอุบัติเหตุลักษณะในพื้นที่ใกล้เคียงแต่อย่าใด จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นข้อมูลหลอกในโลกออนไลน์ ที่ผู้หวังดีไม่ได้พินิจพิเคราะห์ข้อมูลมาก่อน