คำสารภาพฆาตกรยัดขวด รับก่อเหตุเป็นครั้งที่ 3
(16 เม.ย.) ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ นำหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ บุกเข้าจับกุม นายภรา ชูศรี อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าเปลือย นางสาวสมร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี สาวบาร์เบียร์ เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ภายในห้องพักโรงแรมชื่อดังย่านถนนช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบในห้องพักของภรา พบยากล่อมประสาทเวเลี่ยม ยาอัลฟาโซแลม หรือ ยาเสียสาว จำนวนมาก และยังพบเสื้อผ้าชุดที่นายภราสวมใส่ในวันเกิดเหตุซึ่งตรงกับภาพที่ทางโรงแรมบันทึกได้จากกล้องวงจรปิด พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟสีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1 กบ. 9021 ชลบุรี ที่ขับขี่ไปก่อเหตุและหลบหนี
หลังจับกุมได้ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เดินทางไปสอบสวนผู้ต้องหาก่อนแถลงข่าวกับสื่อมวลชน โดยนายภรา สารภาพว่าเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุฆ่านางสาวสมรจริง โดยอ้างว่าขณะก่อเหตุอยู่ในอาการเมาจากยากล่อมประสาท และ ไม่คาดคิดว่านางสาวสมรจะถึงขั้นเสียชีวิต พร้อมบอกด้วยว่าก่อนหน้านี้มีปัญหาทางจิตจากความเครียด จนเข้ารับการรักษาที่คลีนิคแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ ต่อเนื่องมานานกว่า 1 ปี ทำให้ที่ผ่านมาต้องกินยากล่อมประสาทตลอดเวลา
พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ เผยว่า ผู้ต้องหาไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง และมีพฤติกรรมชอบไปเที่ยวกลางคืนตามย่านบาร์เบียร์และอ้างตัวว่าชื่อ "ไซม่อน" เศรษฐีชาวมาเลเซีย ชักชวนสาวบาร์เบียร์จากหลายร้านไปร่วมหลับนอน ซึ่งในแต่ละครั้งมักจะให้หญิงสาวที่ไปร่วมหลบนอนกินยากล่อมประสาท นอกจากนี้ยังพบว่าก่อนหน้านี้นายภราเคยก่อเหตุในรูปแบบเดียวกันในท้องที่ สภ.ช้างเผือก และ สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยบังคับให้เหยื่อสาวกินยากล่อมประสาทและยานอนหลับ ก่อนจะมีเพศสัมพันธ์และทำร้ายเหยื่ออย่างทารุน ซึ่งสองครั้งก่อนหน้านี้เหยื่อทั้งสองรายถูกใช้ขวดแก้วยัดเข้าไปทางทวารหนักแต่โชคดีที่ต่อสู้ขัดขืนหลบหนีได้ โดยทั้งสองคดีผู้เสียหายไม่เข้าแจ้งความเพราะอับอาย ซึ่งนอกจากพฤติกรรมวิตถารแล้ว ทุกครั้งที่นายภราก่อเหตุยังขโมยทรัพย์สินของผู้เสียหายไปอีกด้วย
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี สัมปุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้แกะรอยจากภาพวงจรปิดที่ได้จากโรงแรมและตามเส้นทางการหลบหนี รวมทั้งปูพรมลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายจากย่านบาร์เบียร์ ขณะเดียวกันยังได้พยานชาวโอมานที่อยู่ข้างห้องที่เกิดเหตุและออกมาช่วยเปิดประตูห้องให้ผู้ต้องหา ทั้งหมดนี้ทำให้ทราบว่าผู้ต้องหารายนี้คือนายภราและหลบซ่อนตัวอยู่ในเกสต์เฮ้าส์จนนำไปสู่การจับกุมได้ในที่สุด
หลังจากนี้จะประสานงานไปยัง สภ.มักกะสัน และ ตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อตรวจสอบ หลังพบว่ามีคนร้ายก่อเหตุในรปแบบเดียวกัน เพื่อสอบสวนว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกันหรือไม่ ขณะที่ผู้ต้องหาจะถูกส่งตัวไปตรวจสภาพจิตเพื่อให้แพทย์ลงความเห็นว่ามีอาการทางจิตขณะลงมือก่อเหตุหรือไม่ พร้อมแจ้งไปยังผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อขอให้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้เพิ่มเติม