ชาวบ้านสาปแช่ง แท็กซี่ขอขมาศพ ผัวเมียเหยื่อกระสุน

เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายอนุพงศ์ อายุ 29 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ผู้ต้องหาขับรถเฉี่ยวชนดาบตำรวจ และก่อเหตุยิงปืนใส่คู่สามีภรรยาเสียชีวิต เข้ากราบขอขมาศพ ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของญาติๆ และชาวบ้าน หวิดเกิดเหตุชุลมุน
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (18 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ได้ควบคุมตัว นายอนุพงศ์ ไปที่วัดบางค้อ อ.บางกรวย อ.นนทบุรี เพื่อไปกราบขอขมาศพในพิธีรดน้ำศพ 2 สามีภรรยา เจ้าของหอพักแห่งหนึ่ง ที่เป็นเหยื่อถูก นายอนุพงศ์ ยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา
สำหรับบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ญาติสนิทและชาวบ้านนับ 100 คน ร่วมทำพิธีรดน้ำศพครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังทหาร-ตำรวจและชุดเฉพาะกิจกว่า 70 นายเพื่อป้องกันการเกิดเหตุญาติเข้าทำร้ายผู้ต้องหาเพราะความโกรธเคือง
เมื่อผู้ต้องหาเดินทางมาถึง มีสีหน้าเคร่งครึม ก้มหน้าตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าจุดธูปเพื่อทำการขอขมาต่อหน้าศพ พร้อมด้วยพวงมาลัย จากนั้นผู้ต้องหาได้กราบเท้า พ่อของเหยื่อผู้เสียชีวิต กล่าวคำขออโหสิกรรมด้วยน้ำตานองหน้า พร้อมทั้งสัญญาว่าจะกลับตัวเป็นคนดี และรับใช้กรรมที่ตนก่อไว้
พ่อของเหยื่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เป็นลูกผู้ชายกล้าทำต้องกล้าที่จะรับกรรม อย่าร้องไห้ ตนอโหสิกรรมให้ อย่าไปทำกรรมกับใครอีกเลย จากนั้นผู้ต้องหาจึงก้มกราบเท้า ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพาเดินทางออกจากศาลาวัด ซึ่งระหว่างทางบรรดาญาติๆ ของผู้เสียชีวิต ต่างตะโกนถามด้วยน้ำเสียงโกรธแค้นว่า "...ทำเขาทำไม!" เจ้าหน้าที่จึงต้องรีบควบคุมตัวเดินทางออกไป
ขณะที่แนวทางการสอบสวนนั้น นายอนุพงศ์ ยอมรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะถูกต่อว่าเรื่องเล่นกีตาร์เสียงดัง ทำให้รู้สึกเสียหน้า ประกอบพบว่าห้องพักถูกรื้อค้นระหว่างออกไปขับแท็กซี่หารายได้ จึงคิดว่าเป็นฝีมือของผู้เสียชีวิต จึงตัดสินใจก่อเหตุ ก่อนนำเอาปืนไปโยนทิ้งและเข้ามอบตัวในที่สุด
ส่วนอาการบาดเจ็บของ ด.ต.จักรี ผลาสิงห์ ผู้บังคับหมู่งานจราจร สภ.บางใหญ่ ที่ถูกผู้ต้องหาขับรถพุ่งชนนั้น พบว่ามีอาการสมองช้ำ กระดูกไหปลาร้าหัก ขาขวาหัก ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีเลือดคลั่งในสมองต้องรอให้ความดันลดลงถึงจะสามารถผ่าตัดได้