อิม น้ำตานอง! เลิกหนุ่มคนรัก เจอความจริงที่รับไม่ได้
ทำเอานักแสดงสาวอารมณ์ดี "หนูอิมอิม ก้าวมหัศาจรรย์" ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่กันเลยทีเดียว หลังเจ้าตัวนัดสื่อมวลชนร่วมฟังการแถลงข่าวประกาศตัดสัมพันธ์หนุ่มคนรักหลังใช้เวลาคบหาดูใจมานานกว่า 2 ปีเต็ม ท่ามกลางเสียงคัดค้านของผู้เป็นแม่ กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเจ้าตัวได้รับรู้ความจริงบางอย่างของฝ่ายชายหลังร่วมหุ้นทำรายการโทรทัศน์ "เที่ยวครื้นเครง" จนถึงขั้นทรุดหนักเข้าโรงพยาบาล และกลายมาเป็นสาเหตุให้ต้องบอกเลิก!!
พร้อมกันนั้นสาวอิมอิมยังเผยต่ออีกว่า ตั้งแต่นี้ไปตนไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นหากฝ่ายชายนำชื่อของตนไปแอบอ้างกับใครอีก ก่อนบอกเหตุการณ์คราวนี้ถือเป็นบทเรียนเรื่องความรักครั้งใหญ่ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต...
วันนี้เห็นว่าเรามีอะไรอยากจะชี้แจงกับสื่อ ?
"สาเหตุที่วันนี้อิมนัดพี่ๆ สื่อมวลชนมาร่วมฟังแถลงข่าวนะคะ อิมแค่ต้องการจะบอกว่า ณ ตอนนี้ธุรกิจที่อิมได้ทำกับอดีตคนที่อิมเคยรัก ซึ่งก็คือการผลิตรายการ "เที่ยวครื้นเครง" ตอนนี้เราสองคนไปด้วยกันไม่ได้แล้ว เพราะตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่เราทำรายการร่วมกันมา อิมได้รับรู้เรื่องราวและปัญหาหลายๆ อย่างเยอะมาก ซึ่งก็เป็นอิมอีกเหมือนกันที่แบกรับมันเอาไว้และคอยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงคนเดียว ดังนั้นอิมก็อยากจะบอกอีกครั้งนะคะว่า หลังจากวันนี้ไปเราสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กันแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือทุกๆ อย่างเกี่ยวกับรายการที่เราทำร่วมกัน แต่ถึงอย่างนั้นแล้วอิมก็ยังยืนยันที่จะเดินหน้าทำรายการเที่ยวครื้นเครงนี้ต่อไปโดยที่จะไม่มีเขาเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น (ร้องไห้)"
ปัญหาที่เกิดขึ้นมันเป็นปัญหาแค่เฉพาะเรื่องงาน หรือมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวด้วย ?
"ตั้งแต่เราคบกันมาทัศนคติของเราไปด้วยกันไม่ได้เลยค่ะ แล้วยิ่งพอได้ทำงานร่วมกันเรายิ่งรู้เลยว่าทัศนคติของเราไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ ซึ่งในส่วนของปัญหาหลักๆ หนูคงต้องขออนุญาตพี่ๆ ด้วยนะคะที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ (ร้องไห้) สิ่งที่หนูเจอ หนูไม่สามารถบอกได้ว่าหนูเจออะไรมาบ้าง หนูอ่อนแอและท้อแท้มาก หนูกินไม่ได้นอนไม่หลับมาเป็นเดือนๆ เพราะสิ่งที่หนูโดนเขากระทำมา หนูไม่อยากพูดให้เขาเสื่อมเสียหรือให้ใครเสื่อมเสีย เพราะไหนๆ เราก็จบกันไปแล้ว หนูก็อยากให้มันจบกันไปเลย ต่างคนต่างอยู่กันดีกว่า"
"จริงๆ เรื่องนี้คุณแม่หนูเขาก็เคยเตือนหนูหลายครั้งแล้วว่าถ้าคบต่อไปจะต้องเจอปัญหาหนัก แต่พี่ก็รู้นิสัยหนู ถ้าหนูรักใครหนูก็จะรักมาก หนูรักด้วยหัวใจ หนูรักเขา หนูทำทุกอย่างเพื่อเขา (ร้องไห้)"
แล้วสำหรับเรื่องเงินมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยไหม ?
"มันพูดไม่ได้จริงๆ ค่ะพี่ (ร้องไห้) เอาเป็นว่าเราสองคนไม่สามารถเข้ากันได้จริงๆ"
เพราะอะไรเราถึงไม่ดึงตัวออกมาจากเขาเลยแล้วทำรายการคนเดียว ?
"ตอนนี้เรายังติดสัญญากับทางช่องค่ะพี่เลยทำให้ต้องสู้กันต่อไป"
หลังจากนี้เรื่องค่าใช้จ่ายของรายการใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ?
"หนูจะรับผิดชอบทุกอย่างเองค่ะ เพราะหนูเป็นคนเริ่มต้นคิดรายการ ดังนั้นหนูก็จะรับผิดชอบทุกๆ อย่าง และหนูก็สัญญาว่าหนูจะทำให้มันออกมาดีที่สุดค่ะ"
นอกจากค่าเสียหายทางธุรกิจยังมีสิ่งของที่ซื้อให้กันแล้วต้องเอามาแบ่งกันไหม ?
"หนูพูดไม่ได้ค่ะพี่"
ความรักครั้งนี้ให้บทเรียนเรายังไงบ้าง ?
"ก่อนหน้านี้แม่หนูบินมาหาหนู แล้วบอกกับหนูประโยคหนึ่งว่า "ถ้ายังฝืนคบต่อหนูจะล้มทั้งยืนเลยนะ และจะเจ็บมากเลยด้วยกับสิ่งที่เขาทำกับหนู" แต่หนูก็ตอบกับแม่ไปว่า "หนูรับไหว เพราะหนูรักเขามาก" เพราะหนูคิดว่าหนูจะสามารถเปลี่ยนอะไรบางอย่างได้ แต่สุดท้ายแล้วเรื่องมันก็กลายเป็นแบบที่แม่บอก มันเป็นกรรมของหนู เป็นกรรมเวรของหนูที่หนูเลือกเอง ดังนั้นหนูก็ขอน้อมรับในกรรมครั้งนี้แต่เพียงผู้เดียวค่ะ ไม่อยากไปโทษไปโกรธอะไรเขาอีก ขอแค่เราจบกันก็พอไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกับอีกต่อไป"
ใช้คำว่าเข็ดได้เลยไหม ?
"หนูกลัวเลยพี่ (ร้องไห้) เพราะข้อเสียของหนูคือเวลาหนูรักใครหนูจะรักมาก หนูจะทุ่มเทมาก หนูจะไม่วางแผน เพราะหนูคิดเสมอว่ารักจะสดใส และไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวหนู ดังนั้นเหตุการณ์ครั้งนี้มันก็เหมือนเป็นบทเรียนว่าเวลาเรารักใครเราต้องเผื่อใจไว้เจ็บ เชื่อพ่อเชื่อแม่บ้างเวลาเขาเตือนเรา"
ในอนาคตจะมีการปรับความเข้าใจเผื่อคืนดีบ้างไหม ?
"คงไม่แล้วค่ะพี่ เพราะสิ่งที่หนูเจอมามันทำให้หนูทรุดหนักเพราะความเครียดถึงขั้นเขาโรงพยาบาลเลย"
กับเหตุการณ์ที่เราเจอสามารถใช้คำว่าโดนหลอกหักหลังได้หรือเปล่า ?
"หนูไม่สามรถพูดได้ค่ะ เพราะมันอาจจะส่งผลกระทบต่อข้อกฎหมายหากมีการฟ้องร้อง"
มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องหรือเปล่า ?
"หนูไม่รู้นะคะว่ามีหรือเปล่า เพราะแค่เหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ที่หนูเจอมา มันก็ทำให้หนูเครียดจนแทบรับไม่ไหวแล้ว"
ตอนนี้เราได้มีการแจ้งความเพื่อฟ้องร้องบ้างไหม ?
"กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุยกันอยู่ค่ะ"
อะไรคือจุดแตกหักที่ทำให้เราตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ ?
"ความจริงไงคะ ความจริงมันเปิดเผยขึ้นมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ ซึ่งพอเรารู้ปุ๊ปเราก็น็อค"
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ