สารวัตรเพชรบุรี ยืนยัน "ผู้กองบี" ตำรวจสวย ปฏิบัติงานได้ดี
จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ Thailand Police Story ได้โพสต์ภาพตำรวจจราจรยืนเข้าแถวเรียงหน้ากระดานต่อหน้ารองสารวัตรจราจรหญิงสาว พร้อมแคปชั่นเรียบๆ แต่ชวนยิ้มว่า... "ตั้งแต่สภ.เมืองเพชรบุรี เปลี่ยนรองสารวัตรจราจรคนใหม่ ตำรวจจราจรก็ไม่เคยมาสายหรือลาป่วยอีกเลย" สร้างความสนใจในโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ รองสารวัตรจราจรหญิงคนดังกล่าวคือ ร.ต.อ.(หญิง)กัญญาลักษณ์ เฉียบแหลม หรือ ผู้กองบี รองสว.จราจร สภ.เพชรบุรี กำลังตรวจแถวตำรวจจราจรก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งมีตำรวจถ่ายไว้แล้วไปโพสต์จนเกิดการแชร์กันกระหึ่ม โดยส่วนใหญ่ต่างชื่มชมตำรวจหญิงรายนี้ที่อาสามาทำงานภาคสนามแทนที่จะเลือกทำงานในห้องแอร์
ล่าสุด พ.ต.ท.สุทัศน์ พุกงาม สว.จร.สภ.เมืองเพชรบุรี เปิดเผยว่า ผู้กองบี ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในโซเซียลเน็ตเวิร์กนั้น โดยปกติการเรียกรวมและตรวจกำลังพลทุกครั้งเป็นหน้าที่ของ รองสว.จร.ที่มีอยู่ 3 นาย แต่ช่วงที่ สว.จร.ผู้ชายไม่อยู่ สว.จร.ผู้หญิงก็ทำหน้าที่แทนได้ ผู้บังคับบัญชาเลยมอบหมายให้ผู้กองบีมาช่วยทำหน้าที่เรียกรวมและตรวจกำลังพลแทน
จากภาพจะเห็นว่า ผู้กองบี ทำหน้าที่เรียกพล และนำเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูนั้นไม่แปลก เพราะผู้กองบีใช้มือถือถ่ายภาพแผนและคำสั่งว่าตำรวจจราจรท่านใด ประจำอยู่จุดไหน เพื่อให้ทราบก่อนจะปล่อยแถว เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่มีการแชทอย่างที่มีคนตั้งข้อสงสัย
ที่สำคัญการทำหน้าที่ของผู้กองบี ก็ทำได้ดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผู้ชาย เพราะอำนาจหน้าที่ระบบสั่งการต่างๆ ก็เป็นไปตามระบบ ส่วนมุมมองของแต่ละบุคคลเราไม่สามารถบังคับได้ แต่ในทางปฏิบัติหน้าที่ไม่ว่าหญิงหรือชาย เมื่อเป็นผู้บังคับบัญชาแล้วก็สามารถสั่งการได้ทุกคน อย่างไรก็ตาม ในโซเซียลกลับไปมองที่สรีระร่างกายมากกว่าการทำงาน ไม่เกิดประโยชน์ และแน่นอนส่งผลกระทบต่อจิตใจมิใช่น้อย
ที่ผ่านมา ผู้กองบี จะนุ่งกระโปรง ก็จะเกิดอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปตรวจตามจุดต่างๆ ทางผู้บังคับบัญชาจึงเห็นว่าไม่เหมาะกับการปฏิบัติหน้าที่จะได้ให้เปลี่ยนมานุ่งกางเกงแทน ซึ่งทางผู้กองบีก็เปลี่ยนมานุ่งกางเกงปฏิบัติหน้าที่มานานนับปีแล้ว ก็ดูกระฉับกระเฉงดี บางครั้งอาจไปเจอเหตุการณ์ต่างๆ จะทำให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์
ตั้งแต่ สภ.เมืองเพชรบุรี เปลี่ยนรองสารวัตรจราจรคนใหม่ ตำรวจจราจรก็ไม่เคยมาสายหรือลาป่วยอีกเลย
Posted by Thailand Police Story on Tuesday, May 5, 2015