สุดรันทด! ด.ญ. 10 ขวบ อยู่บ้านลึกเปลี่ยวดูแลพ่อตาบอด ใช้น้ำสระโคลนประทังชีวิต

สุดรันทด! ด.ญ. 10 ขวบ อยู่บ้านลึกเปลี่ยวดูแลพ่อตาบอด ใช้น้ำสระโคลนประทังชีวิต

สุดรันทด! ด.ญ. 10 ขวบ อยู่บ้านลึกเปลี่ยวดูแลพ่อตาบอด ใช้น้ำสระโคลนประทังชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 19 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 3 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี มีเด็กหญิงวัย 10 ขวบ คือ ด.ญ. มนัสวี ทับทิม อดีตเรียนอยู่ ร.ร.บ้านตะโกล่าง ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กำลังจะขึ้นประถมศึกษาปีที่ 4 แต่จำเป็นต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน เพื่อออกมาเลี้ยงดูบิดาที่ตาบอดทั้ง 2 ข้าง คือ นายทิ้ง ทับทิม อายุ 70 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุจักรยานยนต์ล้ม จนสายตาเริ่มพร่ามัวมองไม่เห็น ทำมาหากินอะไรไม่ได้ อยู่กันเพียงลำพัง 2 พ่อลูก อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังเล็กๆ บริเวณริมเชิงเขาทางเข้าเป็นถนนลูกรังห่างไกลชุมชน ลึกเข้าไปในป่าเขาจากถนนสายป่าหวาย-สวนผึ้ง ประมาณ 4 กิโลเมตร

นายทิ้ง ทับทิม เปิดเผยว่า ลูกสาวเรียนอยู่ ร.ร.บ้านตะโกล่างตำบลสวนผึ้ง ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ตำบลท่าเคย จึงให้หยุดเรียนเนื่องจากไม่มีที่พักอาศัยใกล้โรงเรียน ขณะที่ตนเองตอนนี้ร่างกายไม่แข็งแรง ปวดหลังและสายตาทั้งสองข้างพร่ามัวมองไม่เห็น หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม จากนั้นไม่นานตาก็เริ่มมองไม่เห็น ออกไปทำงานนอกบ้านไม่ได้ ลูกสาวจึงไม่ได้เรียนหนังสือแล้วต้องออกมาดูแล

ทั้งนี้ ทุกวันนี้ตนใช้เงินเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท ในการดำรงชีพ โดยต้องเดินเท้าจากบ้านออกไปปากทาง ซึ่งไกลมาก หาซื้อของใช้และกับข้าวที่เก็บได้หลายวัน และมีลูกสาวคอยหุงข้าว ซึ่งจะใช้น้ำจากสระน้ำใกล้บ้านมาใช้อาบและดื่มกิน โดยผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า น้ำที่ใช้อุปโภค บริโภคนั้นมาจากจากบ่อดินลูกรัง มีสภาพค่อนข้างขุ่นมาก โดยเฉพาะช่วงหลังฝนตก

นายทิ้ง กล่วต่อว่า ลูกสาวตนเองนั้นก็สุขภาพไม่ดีนัก เนื่องจากเมื่อสมัยตอนเป็นเด็กได้วิ่งตกบ่อน้ำ โดนก้อนหินทิ่มเข้าบริเวณหน้าอก ทำให้โตขึ้นจะรู้สึกเจ็บหน้าอกหายใจไม่ออก มักจะเจ็บบริเวณหัวใจ บางครั้งต้องใช้กำปั้นทุบหน้าอกจนเหนื่อยหอบ และยังเป็นเด็กขี้กลัว เวลาพบเจอคนแปลกหน้าจะวิ่งหลบหนีเข้าป่า เพราะกลัวว่าแก๊งรถตู้จะมาจับเด็กไปขอทาน ทุกวันนี้ยังคงมีเพื่อนบ้านที่อยู่ปากทางบางคนสงสารได้ซื้อข้าวสารมาให้อยู่บ้าง และต่อไฟฟ้ามาให้เพื่อใช้หุงข้าว เพราะลูกสาวยังก่อไฟหุงข้าวเองไม่ได้ ต้องใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าใช้แทน ทำให้อยู่กินกับลูกสาวไปวัน ๆ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร

จากสภาพความเป็นอยู่ของทั้งสองซึ่งร่างกายไม่สมบูรณ์ และความปลอดภัยของ ด.ญ.มนัสวี จึงวอนหน่วยงานรัฐเข้าช่วยเหลือ และวอนผู้มีจิตเมตตาช่วยเหลือ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook