สาวใหญ่ร้องโอด! จวนจะหมดตัว โจรขึ้นบ้าน 4 ครั้งซ้อน
สาวนนทบุรีร้องสื่อ โจรปล้นบ้านมา 4 ครั้งรวด สูญทรัพย์สินไปนับล้านบาท แจ้งความแล้วคดีไม่เคยคืบหน้า โอดครวญช่วยด้วย ตอนนี้ใกล้จะหมดตัวแล้ว
(20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจาก นางอรัญญา อายุ 49 ปี เจ้าของธุรกิจค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูป อาศัยอยู่ในหมู่บ้านสมชายพัฒนา ซ.บางกรวย-ไทรน้อย 13 อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า บ้านตัวเองถูกโจรขึ้นบ้านมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ไม่สามารถจับคนร้ายได้
นางอรัญญา ระบุว่า แต่ละครั้งที่โจรเข้ามาก่อเหตุ มักจะสูญเสียทรัพย์สินไปหลายแสนบาท หากรวมมูลค่าทั้งหมดน่าจะเกือบล้านบาท ทั้งนี้ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางกรวย โดยมีการติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ผู้เสียหายรู้สึกท้อใจ เนื่องจากถูกปล้นทรัพย์ใกล้จะหมดตัว จึงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้น สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีขาว-ส้ม ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาในหมู่บ้าน ตอนเวลาประมาณ 12.59 น. วันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา
คนร้ายจอดรถ จยย. ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งภายในซอยและได้เดินสำรวจตามบ้านเรือนประชาชนโดยทำทีเป็นกดกริ่งหน้าบ้านหลายหลัง กระทั่งมาถึงบ้านหลังที่เกิดเหตุไม่มีคนอยู่ในบ้าน เมื่อสบโอกาสจึงได้ปีนกำแพงรั้วบ้านเข้าไปขโมยทรัพย์สิน
สำหรับบ้านหลังที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเดียว 2 ชั้น ขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ คนร้ายได้ปีนเข้าตรงหน้าบ้านที่มีต้นมะม่วงใหญ่อยู่ติดกับรั้วบ้าน จากนั้นได้งัดประตูกระจกหน้าบ้านจนหลุดออกและใช้คีมตัดเหล็กดัดจนหลุดทั้ง 3 ด้านเปิดเป็นช่องให้ตัวแทรกเข้าไปได้ จากนั้นได้ขึ้นไปบนชั้น 2 เปิดประตูห้องนอน ทั้ง 5 ห้อง เพื่อสำรวจและขโมยทรัพย์สินไป ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่คนร้ายฉวยเอาไปได้ ประกอบด้วย เงินสด 160,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท 2 เส้น แหวนทองน้ำหนัก 2 สลึง 2 วง เหรียญทองคำเก่า 3 เหรียญและแบงค์เก่าจำนวนมาก อีกทั้งก่อนหน้านี้ บ้านหลังดังกล่าวยังถูกขโมยขึ้นบ้านมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4
นอกจากนี้ ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ที่บ้านหลังหนึ่ง ซ.วัดเชิงกระบือ มีลักษณะการก่อเหตุคล้ายกัน ฉวยเอาทรัพย์สินไปได้หลายรายการ ประกอบด้วย แหวนเงินผสมทองคำขาว 1 วง สร้อยมุข 2 วง เข็มกลัดเสื้อ 5 ตัว คริสตัล และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง รวมทรัพย์สินประมาณ 100,000 บาท
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้ง 2 แห่ง แต่ต้องรอผลตรวจลายนิ้วมือจากกองพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย พบว่า คนร้ายจากเหตุการณ์แรกขับรถ จยย.หลบหนี ไปทางสะพานพระราม 7 ส่วนรายที่ 2 ต้องรอตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหารูปพรรณคนร้ายและเส้นทางการหลบหนีคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป