′พระสุเทพ′ ย้ำเตรียมลาสิกขา เล็งนั่งปธ.มูลนิธิมวลมหาประชาชน
ที่สวนโมกขพลาราม (วัดธารน้ำไหล) ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ให้สัมภาษณ์ว่า จากกระแสข่าวการลาสิกขานั้น ยืนยันว่ายังไม่มีการกำหนด ขณะนี้ยังมีความสุขกับการปฏิบัติธรรมรับใช้พระพุทธศาสนาและยังรับกิจนิมนต์ไปเรื่อยๆ ถึงปลายเดือนสิงหาคม ขณะนี้ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย เมื่อถึงเวลานั้นจะลาสิกขา
ตั้งแต่ตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศกับประชาชนชัดเจนว่าไม่มีความประสงค์จะกลับไปเป็นนักการเมือง ไม่ลงรับสมัครเลือกตั้งอีกแล้ว ร่างรัฐธรรมนูญออกมาดีอย่างไร ก็ไม่ประสงค์รับผลพวงจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือกฎหมายที่ตามมาจากการต่อสู้ หากลาสิกขาตั้งใจจะไปเป็นเอ็นจีโอ ทำงานภาคประชาชน การเมืองภาคเอกชน
พระสุเทพกล่าวว่า ขณะนี้ได้จดทะเบียนมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย จะไปเป็นประธานมูลนิธิ ทำงานร่วมกับประชาชนเรื่องดูแลประเทศไทยให้แข็งแรงโดยภาคเอกชน
และว่า หากต่อไปรัฐบาลหรือ คสช. จะแต่งตั้งตำแหน่งทางการเมืองภาคประชาชน และมอบหมายตำแหน่งให้ หากเป็นทางการเมืองจะไม่ลงรับตำแหน่ง แต่หากเป็นการร่วมมือกับประชาชนภาคต่างๆ เพื่อการพัฒนาประเทศก็จะทำ
ส่วน ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหา คดีทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งนั้นถือเป็นเรื่องดี จะได้นำเอกสารไปชี้แจงและเป็นโอกาสดีที่ประชาชนได้รับรู้ความจริง จะเดินทางไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ในวันที่ 22 พฤษภาคม เวลา 13.00 น.
"ส่วนการร่างรัฐธรรมนูญ ทุกคนที่ตั้งใจจะร่างรัฐธรรมนูญให้เหมาะสมที่สุดเพื่อประเทศไทยจะต้องให้โอกาสท่านเหล่านั้น อย่าเพิ่งไปมองในแง่ลบ ขณะนี้เรามีรัฐบาลซึ่งเกิดขึ้นโดย คสช.เข้ามายึดอำนาจ เนื่องจากเกิดการแตกแยกต่อสู้ในบ้านเมือง เป็นภาวการณ์ที่ไม่ปกติและเข้ามาบริหารประเทศ ดูแลประเทศ
เพราะฉะนั้นวันนี้ทุกฝ่ายควรสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อให้ทำภารกิจนี้สำเร็จเสร็จสิ้นโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยโดยส่วนรวม ใครก็ตามที่เข้ามาขัดขวางทำลาย ควรคำนึงว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์กำลังทำหน้าที่เฉพาะกิจในโอกาสวาระพิเศษ หมดภาระก็จะกลับบ้าน ฉะนั้นไม่ต้องไปขัดขวางโจมตี ควรให้ความร่วมมือบ้านเมืองจะได้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว" พระสุเทพกล่าว