"จุฬาราชมนตรี" ให้อภัย จนท.สนามบินตรวจศีรษะ-ผ้าสะระบั่น ผู้บริหารจ่อเข้าขอขมา

จุฬาราชมนตรีไม่ประสงค์ให้เป็นประเด็น ในฐานะผู้ใหญ่เข้าใจดีว่าเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่ได้ติดใจเอาความ กรณีเจ้าหน้าที่สนามบินตรวจค้นไม่เหมาะสม ยันทำหนังสือแจ้งทุกครั้งก่อนเดินทาง เกิดเหตุการณ์แบบนี้ 3-4 ครั้งแล้ว

เดอะ พลับลิกโพสต์ รายงานว่า นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ถูกตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่สนามบินสุวรณภูมิ ขณะผ่านเครื่องสแกน ซึ่งภาพเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง กำลังโดยใช้เครื่องมือตรวจกดที่ศีรษะและผ้าสะระบั่น (ผ้าโพกศีรษะ) ของท่านจุฬาราชมนตรี ซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น ทำให้มุสลิมจำนวนมากไม่พอใจเพราะมองว่าการกระทำดังกล่าวนั้นไม่เหมาะสมและเกินกว่าเหตุ เป็นการไม่ให้เกียรติจุฬาราชมนตรี ซึ่งเป็นประมุขสุงสุดของชาวมุสลิมในประเทศไทย นั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายซากีย์ พิทักษ์คุมพล รองเลขานุการจุฬาราชมนตรีและบุตรชาย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวพับลิกโพสต์ว่า ท่านจุฬาราชมนตรีไม่ประสงค์ให้เรื่องดังกล่าวนี้กลายเป็นประเด็นหรือถูกขยายความเป็นเรื่องราวใหญ่โต รวมทั้งไม่ได้ต้องการให้ลงโทษเจ้าหน้าคนหนึ่งคนใด ซึ่งท่านในฐานะผู้ใหญ่ก็เข้าใจดีว่าเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่ได้ติดใจเอาความ

อย่างไรก็ตาม รองเลขานุการจุฬาราชมนตรี ยืนยันกับผู้สื่อข่าวพับลิกโพสต์ว่า ทุกครั้งที่ท่านจุฬาราชมนตรีจะเดินทางนั้นได้ทำหนังสือแจ้งไปยังการท่าอากาศยานทุกครั้ง และเจ้าหน้าก็รู้ว่าบุคคลที่กำลังเดินทางคือท่านจุฬาราชมนตรี

รองเลขานุการจุฬาราชมนตรี ระบุว่า การตรวจค้นแบบไม่เหมาะสมนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 3-4 ครั้ง ซึ่งผู้ติดตามจุฬาราชมนตรีก็รู้สึกไม่พอใจต่อการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ แต่เนื่องจากท่านจุฬาราชมนตรีไม่ต้องการให้เกิดเป็นประเด็นจึงไม่ได้เปิดเผย จนกระทั่งมีผู้พบเห็นและถ่ายภาพดังกล่าวออกเผยแพร่จนมาสู่กระแสความไม่พอใจของชาวมุสลิม

ส่วนกรณีหลายคนสงสัยว่าทำไมท่านจุฬาราชมนตรีไม่ใช้ช่องตรวจวีไอพีนั้น นายซากีย์ระบุว่า ก็เนื่องจากไม่มีช่องตรวจดังกล่าวนั้นแต่อย่างใด

ทั้งนี้มีรายงานว่า ขณะนี้ผู้บริหารการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรู้เรื่องที่เกิดขึ้นและเตรียมเข้าขอขมาจุฬาราชมนตรีแล้ว

อนึ่ง เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่สนามบินปฏิบัติต่อประมุขของชาวมุสลิมอย่างไม่เหมาะสมนี้ เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยในวันดังกล่าวท่านจุฬาราชมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจใน จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา