ผู้เสียหาย 300 คนร้อง ป. ถูกหลอกทำงานต่างประเทศ

ผู้เสียหาย 300 คนร้อง ป. ถูกหลอกทำงานต่างประเทศ

ผู้เสียหาย 300 คนร้อง ป. ถูกหลอกทำงานต่างประเทศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้เสียหาย กว่า 300 คน ร้องกองปราบ ถูกหลอกทำงานไร่ผลไม้ ประเทศออสเตรเลีย เสียค่านายหน้า คนละ 3 หมื่น ถึง 1 แสนบาท

กลุ่มผู้เสียหาย กว่า 300 คน เข้าร้องทุกข์ต่อ พันตำรวจเอก อัคราเดช พิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการปราบปราม หลังถูกหลอกไปทำงานไร่ผลไม้และอู่ต่อเรือ ที่ประเทศออสเตรเลีย เสียค่านายหน้าคนละ 30,000 ถึง 100,000 บาท แต่ไม่สามารถไปทำงานได้จริง

นายธีระวัฒน์ หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า มีคนชื่อ นายนัทชล ชักชวนให้ไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย ได้ค่าจ้างเดือนละ กว่า 100,000 แต่ต้องจ่ายค่านายหน้า 30,000 บาท โดยนัดให้มาอบรมที่ กระทรวงแรงงาน ในวันนี้ แต่เมื่อมาถึงกลับไม่มีการจัดอบรมใดๆ จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก

ด้าน นางบัวผัน เล่าว่า มีนายหน้าชักชวนให้ไปทำงานไร่ผลไม้ ประเทศออสเตรเลีย โดยมีภาพถ่ายมายืนยันว่า มีคนเคยไปทำงานจริง และจะได้รับเงินเดือน 50,000 ถึง 70,000 บาท ตัวเองและสามีจึงตกลงไปกู้เงินมาจ่ายค่านายหน้าคนละ 50,000 บาท โดยหวังว่าจะไปทำงานเก็บเงิน แต่กลับถูกหลอก

ในเวลาต่อมา พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับกุม น.ส.ฐานิดา หรือ ทราย อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย จะพาไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ไม่สามารถเดินทางไปได้จริง โดยถูกตำรวจกองปราบปราม จับกุมได้ ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านเขตวังทองหลาง หลังมีผู้เสียหาย 42 คนเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ว่า ถูก น.ส.ฐานิดา เป็นนายหน้าหลอกแรงงาน ไปทำงานในไร่องุ่นที่ประเทศออสเตรเลีย โดยอ้างกับผู้เสียหายว่าจะได้เงินค่าจ้างเดือนละ 50,000 บาท มีผู้เสียหาย หลงเชื่อโอนเงินค่าดำเนินการรายละ 100,000-150,000 บาท มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 5 ล้านบาท แต่เมื่อจ่ายเงินไปแล้วไม่สามารถเดินทางไปออสเตรเลียได้ตามที่ตกลง ผู้เสียหายจึงเข้าร้องทุกข์กับกองปราบปราม เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

เบื้องต้น น.ส.ฐานิดา ให้การอ้างว่าตนไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกง แต่มีคนชื่อ นัทที เป็นผู้ชักชวนตัวเองให้ไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งตัวเองก็เป็นผู้เสียหายถูกหลอกไปทำงานเช่นกัน และยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนชักชวนใครไปทำงาน และได้คืนเงินให้ผู้เสียหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง จากนี้ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

ด้าน พ.ต.อ.อัคราเดช เปิดเผยว่า นอกจาก น.ส.ฐานิดา ที่ถูกศาลออกหมายจับแล้ว ยังมี น.ส.นัทที ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของไร่องุ่นในประเทศออสเตรเลีย และ น.ส.พัชรีญา ซึ่งเป็นผู้รับโอนเงินต่อจาก น.ส.ฐานิดา และผู้เสียหาย ถูกออกหมายจับด้วยเช่นกัน ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook