แม่ลูกกินปลาปักเป้าประทังชีวิต เกิดช็อกอาการโคม่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (16 มิ.ย.) ที่ รพ.มหาสารคาม ได้รับการส่งตัวคนไข้อาการช็อกหมดสติ จาก รพ.วาปีปทุม เนื่องจากได้รับสารพิษจากการกินปลาปักเป้าน้ำจืด เข้ารักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยหนัก รพ.มหาสารคาม รวม 2 คน คือ นางทอง อายุ 84 ปี และนายบรรจง อายุ 48 ปี อาการยังอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา และแพทย์ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

จากการสอบถาม นางหนูสุ่น ลูกสาวของนางทอง กล่าวว่า ทั้งสองเป็นแม่และน้องชายของตน ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน อยู่กันเพียงลำพังสองแม่ลูก ทุกวันน้องชายจะเป็นผู้ออกไปจับปลาตามห้วยหนองมากินประทังชีวิต

ก่อนเกิดเหตุนายบรรจง ได้ไปจับปลาตามห้วยหนอง มาเป็นอาหารประทังชีวิต ที่อ่างเก็บน้ำหนองใต้ ต.หนองทุ่ม อ.วาปีปทุม โดยไปวางตาข่ายจับได้ปลาปักเป้ามา 8 ตัว เป็นปลาปักเป้าตัวลายดำตาสีแดง จากนั้นนำกลับมาย่างกินที่บ้านเป็นอาหารเย็น

โดยนางทองกินเข้าไป 2 ตัว ส่วนนายบรรจงกินเข้าไป 2 ตัว หลังกินไปได้ประมาณ 30 นาที ทั้งคู่ก็เกิดอาการคันที่ปาก และหมดแรง อาเจียนอย่างหนัก หายใจหอบ สุดท้ายทั้งคู่ช็อกหมดสติ ญาติจึงนำส่งรพ.

ด้าน นายกานต์ ศรีบุญลือ นายอำเภอวาปีปทุม กล่าวว่า เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาก็เคยมีชาวบ้านหัวเรือ หมู่ 4 ต.หัวเรือ อ.วาปีปทุม กินปลาปักเป้าที่หาได้จากลำน้ำ เสียชิวิต 2 ราย ตนลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน ก็พยายามเตือนอย่าจับมากินเพราะอันตรายอาจถึงตายได้ แต่ก็เกิดเหตุซ้ำจนได้

ทั้งนี้ ตนจะกำชับผู้ใหญ่บ้าน กำนัน แจ้งเสียงตามสายประกาศเตือนชาวบ้านอีกครั้ง อย่าจับปลาชนิดนี้มากินอีกเพราะอาจเสียชีวิตได้