เมื่อผู้รักษากฎฯ ยอมจำนน สังคมไทยจะไปทางไหนกัน

พลันที่สมาชิกปฏิรูปแห่งชาติ 12 คน ออกมาเสนอแนวคิดให้ตั้งบ่อนคาสิโน เพื่อช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการหารายได้เข้ารัฐ ในยามเศรษฐกิจตกต่ำ และเพื่อไม่ให้เงินจากนักพนันไทยไหลออกไปเล่นในบ่อนของประเทศเพื่อนบ้าน ปีละหลายหมื่นล้านบาท ไทยจะได้มีเงินมาพัฒนาประเทศ เป็นการทำให้ของที่มีอยู่แต่ผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมายจะได้ควบคุมได้และไม่ทำให้เกิดช่องทางการทุจริตในหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

เรื่องนี้เป็นกระแสที่ถูกพูดถึงมากมีกระแสคัดค้านต่อต้านจากหลายส่วน แต่ก็มีกระแสสนับสนุนหลายส่วนเช่นกัน แต่อะไรๆ ก็ไม่น่าสนใจเท่ากับ การที่ท่าน ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ออกมาสนับสนุนแนวคิดในเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยท่านย้ำว่า

"ถึงเวลาที่คนไทยต้องยอมรับความจริงแล้วว่าอย่างไรเสียประเทศไทยก็ต้องมีบ่อน มันหนีไม่พ้นอยู่แล้ว เชื่อเถิดว่าการพนันอยู่ในสายเลือดของคนไทยอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะบริหารจัดการอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในเมื่อคนมันจะเล่นก็จัดพื้นที่ให้เล่นแบบถูกกฎหมายไปเลย .........อย่ามัวแต่ห่วงเรื่องศักดิ์ศรีว่าเราเป็นเมืองพุทธ ให้คิดถึงเรื่องเศรษฐกิจปากท้องเป็นหลัก เพราะเงินไปต่างประเทศหมดแล้ว"

"ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะพูดเรื่องนี้ 1 เดือนก่อนเกษียณอายุราชการ ว่าผมคือ ผบ.ตร.คนแรกที่กล้าพูดว่าเมืองไทยควรมีบ่อนการพนันเสียที อย่าห่วงศักดิ์ศรีว่าเป็นเมืองพุทธอยู่เลย ห่วงเรื่องท้องนี่ เงินออกไปกัมพูชา และมาเก๊าเท่าไหร่แล้ว แม้แต่ประเทศที่ประชาชนเป็นชาวมุสลิม ยังมีบ่อนกาสิโนเปิดอยู่ทั่วประเทศ แม้กระทั่งในโรงแรม ผมเชื่อว่าวิธีคิดของผมสุดยอด หากรัฐบาลไม่ทำประชามติในเรื่องนี้ ผมจะเปิดเว็บไซต์ขึ้นมาเองชื่อว่า สมยศ ฟอร์ กาสิโน เพื่อถามความคิดเห็นประชาชนเลยว่าควรเปิดหรือไม่ แต่ถ้ารัฐบาลจะทำก็ต้องกำหนดมาว่าจะนำรายได้ 30 % จากบ่อนกาสิโน มาใช้ในเรื่องของการศึกษา ช่วยเหลือคนจน และทะนุบำรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ"

นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังตอบคำถามที่ว่าไม่กลัว เอ็นจีโอ ต่อต้านแนวคิดหรือว่า "ผมพูดอย่างนี้ผมกลัวหรอ เขาไม่ใช่พ่อผมนี่!! ผมพร้อมถูกโจมตีจากกลุ่มต่าง ๆ ที่จะมาต่อต้าน ผมไม่กลัวอยู่แล้ว ผมกล้าพูด เพราะคนส่วนหนึ่ง ก็คิดแบบผม
ผมพูดแล้วอธิบายว่าเป็นอย่างไรทำอย่างไร พร้อมหาทางออกให้ แต่คนส่วนหนึ่งกลับไม่กล้าพูด ผมจึงขอพูดให้ประชาชนฟังและยอมรับเสียทีว่าประเทศของเราควรมีบ่อนการพนันถูกกฎหมายได้แล้ว"

"วิธีจับหรือไม่ให้นักพนันพวกนี้กลับไปเล่นการพนันอีกง่ายนิดเดียว คือไม่ต้องไปสนใจว่านาย ก. นาย ข. มีรายได้เท่านั้น เสียภาษีเท่านั้น แล้วจึงค่อยให้บัตรไปเล่นการพนันในกาสิโน มันเพ้อเจ้อ เพราะถึงมีกาสิโนถูกต้องคนไทยก็ลักลอบเล่นอยู่ดี"

"ในกรณีที่ไม่มีที่ให้เล่น อย่างเรื่องเด็กแว้นในเมื่อเด็กมันชอบเล่นนัก ทำไมถึงไม่จัดหาที่ให้เล่นไปเสียเลย เรื่องบ่อนก็เหมือนกัน ยืนยันว่าเรื่องนี้จะให้ผมไปดีเบตเวทีไหนก็ได้ ผมสู้ได้ทุกประเด็นเลย"

ต้องยอมรับว่า แนวคิดของนายตำรวจที่อยู่ระดับบนสุดของโครงสร้างผู้รักษากฎหมาย ครั้งนี้ สะเทือน ต่อสังคมไทยอย่างยิ่ง

ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของตำรวจ ออกมายอมจำนนต่อ กระบวนการที่ผิดกฎหมาย ออกมาเรียกร้องให้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย ยอมจำนนต่อปัญหา แม้กระทั้งเด็กแว้น ท่านยังบอกว่าไม่สามารถแก้ได้ ต้องไปทำสนามให้เขาให้ถูกต้อง...????????

ความน่ากลัวของแนวคิดของผบ.ตร.ครั้งนี้ จะส่งผลอย่างยิ่งต่อ ตำรวจระดับล่างลงมาในอนาคตอย่างแน่นอน เพราะขนาด ผู้บังคับบัญชาสูงสุดยังบอกว่า ให้ยอมจำนน ทำสิ่งผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมายซะ แต่ ตำรวจระดับล่างที่ยึดถืออุดมการณ์ ตั้งใจทำหน้าที่รักษากฎหมายต่อไปจะทำอย่างไร....?????

ในอนาคต สิ่งที่ผิดกฎหมายต่างๆอีกมากมายจะทำอย่างไร...จะจัดการอย่างไร... แน่นอนว่าในระดับของปัญหาต้องช่วยกันในหลายหน่วยงาน หลายระดับ ตั้งแต่รากฐานของสังคม ยันระบบการดูแลรักษาระเบียบเพื่อให้สังคมเกิดความปรกติ..อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องควรจะยึดถือเพื่อสร้างสังคมที่ดีต่อไปในอนาคต....

หากผู้รักษากฎหมายออกมายอมจำนนต่อปัญหา...ในอนาคต ใช่ว่าเราต้องทำสิ่งที่ผิดกฎหมายทุกอย่างที่มีอยู่ให้เป็นเรื่องถูกกฎหมายเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาใช่หรือไม่....การกระทำอันเป็นการคอรัปชั่น เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ก็ออกกฎหมายรองรับให้ถูกต้องซะ ยาเสพติดก็เต็มบ้านเต็มเมือง ก็ทำให้ถูกกฎหมายเสียใช่หรือไม่.....??????

ความน่าวิตกของสังคมในในยามที่ เราอยู่ในโหมดการปฏิรูปประเทศ...แต่ สมาชิกปฏิรูปแห่งชาติ...กลับเสนอให้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย ผู้รักษากฎหมายสูงสุดออกมาขานรับ..... โอ้ อนาคตไทยในวันข้างหน้า .....ก็แล้วแต่ว่าประชาชนผู้เป็นใหญ่จะเห็นดีเห็นงามตามแนวคิดหรือไม่ ก็ได้แต่ติดตามดู...จะนำความสุขคืนให้กับคนไทยทั้งชาติ หรือ จะเข้ารกเข้าพง...ในอีกไม่ช้า...คงเห็นกัน................. ว่าสังคมไทยจะเดินไปทางไหนกัน...?

...เปลวไฟน้อย