กรมชลฯลดปริมาณจ่ายน้ำห่วงไม่มีใช้ในอนาคต
กรมชลประทานปรับแผนการใช้น้ำใหม่ ลดการระบายน้ำเหลือวันละ 28 ล้าน ลบ.ม. เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะอากาศที่แห้งแล้ง
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่ขณะนี้อยู่ในเกณฑ์น้อยมาก โดยกรมชลประทานได้ประชุมร่วมกับ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้คาดการณ์สภาพภูมิอากาศว่า ปริมาณฝนในเดือนกรกฎาคมจะมีไม่มาก และไม่สม่ำเสมอ และฝนจะเริ่มตกชุกในเดือน ส.ค. และ ก.ย. 58 โดยปริมาณฝนทั้งหมดจากปัจจุบันไปจนถึงสิ้นฤดู ประกอบกับในขณะนี้มีปริมาณน้ำต้นทุนเหลือเพียง 1,067 ล้านลูกบากศ์เมตร มีการใช้น้ำวันละ 33 ล้านลูกบากศ์เมตร ทำให้มีน้ำใช้ได้เพียง 32 วัน (ถึงวันที่ 24 ก.ค.58) ซึ่งยังไม่ถึงช่วงที่ฝนตกชุกตามที่ได้คาดการณ์ไว้
ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำทั้งระบบ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประเทศอย่างรุนแรง จึงเตรียมปรับลดแผนการระบายน้ำจากเดิมวันละ 33 ล้านลูกบากศ์เมตร ลงเหลือวันละ 28 ล้านลูกบากศ์ เพื่อยืดการใช้น้ำออกไปได้ 45 วัน (ถึงวันที่ 10 ส.ค.58) โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจแล้ว สำหรับปริมาณน้ำที่ระบายลงมานี้ จะเน้นเพื่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศในอัตราวันละ 13 ล้านลูกบากศ์เมตรเท่าเดิม แต่ลดการส่งน้ำในส่วนของภาคการเกษตรให้เหลือวันละ 15 ล้านลูกบากศ์เมตร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ปลูกข้าวนาปีที่ปลูกไปแล้ว ร้อยละ 25 หรือประมาณ 0.85 ล้านไร่ จึงได้หามาตรการแก้ไขปัญหาพื้นที่เสี่ยง 0.85 ล้านไร่ ไว้ดังนี้ คือบริหารจัดการน้ำที่ได้จัดสรรไว้อย่างเข้มงวด พิจารณาเสริมบ่อน้ำบาดาลในพื้นที่ที่เป็นที่ดอน และพิจารณาแนวทางสนับสนุนเกษตรกรในการขุดบ่อตอกหรือบ่อน้ำตื้นในแปลงนา
ทั้งนี้ ขอประชาชนรวมถึงทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาการขาดแคลนน้ำรุนแรง ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต