คนลำปางฮือฮา! แก้วโป่งข้ามยักษ์ รูปคล้ายใบหน้าคน
(28 มิ.ย.) ชาวบ้านแห่ดู แก้วโปางข่ามยักษ์ บังเอิญพบที่ลำปาง รูปร่างคล้ายใบหน้าคน ยังขุดค้นพบอย่างต่อเนื่อง เชื่อเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของหินมงคล ชาวบ้านนำมาวางให้เช่า สร้างรายได้ช่วงวิกฤตภัยแล้ง
บรรยากาศที่วัดบ้านแม่แก่ง ม.4 ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง คึกคักตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ทราบข่าวว่า มีการพบ แก้วโป่งข่ามยักษ์ และได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่วัดแห่งนี้ จึงนำเอาดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ บูชา ขอพรขอโชคต่างๆ ตามความเชื่อ
สำหรับ แก้วโป่งข้าม ที่ค้นพบในครั้งนี้ถือว่า ก้อนใหญ่เป็นพิเศษ โดยกลุ่มชาวบ้านบังเอิญไปพบระหว่างไปหาปลาในอ่างเก็บน้ำแม่แก่ง เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะนั้นเกิดภัยแล้งในพื้นที่ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างได้ลดลง แต่ระหว่างที่ทุกคนจะลงน้ำไปหาปลา กลับไปสังเกตเห็นก้อนหินขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำบริเวณกลางอ่างน้ำ และส่องแสงระยิบระยับเมื่อกระทบแสงพระอาทิตย์
เมื่อทำการขุดดูจึงพบเป็น "แก้วโป่งข่าม" ขนาดใหญ่ ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน จึงได้มาแจ้งให้ พระพิบูรณ์ รุตจิอุโน เจ้าอาวาสวัดแม่แก่ง และชาวบ้านในหมู่บ้านมาทำพิธีตามความเชื่อ ก่อนจะระดมชาวบ้านช่วยกันขุดและยกขึ้นมาจากน้ำแล้วนำมาไว้ที่วัดแห่งนี้เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชม
กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่นำ แก้วโป่งข่าม ที่ขุดพบในพื้นที่ มาวางจำหน่วยให้ผู้ในใจเลือกซื้อไปบูชา เริ่มต้นราคาตั้งแต่ชิ้นละ 9 บาท ไปจนถึงหลักพัน สร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านอีกทางหนึ่ง หลังต้องประสบปัญหาภัยแล้งมานาน
ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ที่ผ่านมาทางด้านเหนือของหมู่บ้านจะพบแก้วโป่งข่ามอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 50 ปีแล้ว ที่ผ่านมาชาวบ้านได้นำแก้วโป่งข่ามมาทำเป็นเครื่องประดับออกจำหน่ายในหมู่บ้านจนเป็นสินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยเฉพาะการนำไปทำเป็นเครื่องรางของขลัง เพราะชาวบ้านเชื่อว่าเมื่อนำมาประดับ ไม่ว่าจะเป็นแหวน หรือนำมาห้อยคอก็จะป้องกันภูตผีปีศาจ หรือเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย
ที่ผ่านมาชาวบ้านยังเคยพบหินประหลาด เป็นหินสีดำมีลักษณะคล้ายใบหน้าคน เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา คนที่พบครั้งแรกและเป็นคนอุ้มหินมา เป็นเด็กชายในหมู่บ้านไปพบ ขณะไปเล่นน้ำที่หนองน้ำในหมู่บ้าน เด็กชายดังกล่าวจึงได้อุ้มมาให้ญาติ และพบว่ามีลักษณะสีดำและคลายใบหน้าคน จึงได้นำมาไว้ที่ วัดแม่แก่ง
ต่อมาจึงได้มีการทำพิธีประทับร่างองค์ทรงเจ้า ทราบว่าเป็นหินมงคล ที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหินที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิงสถิตอยู่ และตั้งชื่อว่า "พญานิลคำ" และร่างทรงบอกให้สร้างศาลาไว้ เพื่อที่จะรอน้องชายมาอยู่ด้วยกัน และสุดท้ายก็พบจริงๆ คือ โป่งข่ามยักษ์ จึงได้นำมาตั้งที่ศาลาที่สร้างไว้ ให้ศรัทธาประชาชนกราบไหว้สักการะต่อไป