แม่ผู้ต้องหาปล้นรถขนเงินธนาคาร นำเงินสดเกือบ 5 แสนคืนตำรวจ

แม่ผู้ต้องหาปล้นรถขนเงินธนาคาร นำเงินสดเกือบ 5 แสนคืนตำรวจ

แม่ผู้ต้องหาปล้นรถขนเงินธนาคาร นำเงินสดเกือบ 5 แสนคืนตำรวจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

9 ก.ค. - แม่ผู้ต้องหาปล้นรถขนเงิน ธ.กสิกรไทย สาขาโลตัส พระราม 1 นำเงินสดเกือบ 5 แสนบาท คืนตำรวจ แสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมชี้จุดจอดรถยนต์ป้ายแดงภายในท่าอากาศยานดอนเมือง

เมื่อ 23.00 น. วานนี้ (8 ก.ค.) นางชนิตา อายุ 54 ปี มารดาของ นายศาสตรา ผู้ต้องหาคดีปล้นรถขนเงินธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัส พระราม 1 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งยังหลบหนีไปประเทศญี่ปุ่น เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมนำเงินสดจำนวนเกือบ 500,000 บาท ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

นางชนิตา กล่าวว่า ลูกชายนำเงินสดมาฝากไว้กับตนเมื่อต้นเดือน ก.ค. อ้างว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการเล่นพนัน จากนั้นลูกชายบอกว่าจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่หลังจากทราบข่าวว่าลูกชายตกเป็นผู้ต้องหา จึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อหาลูกชาย ซึ่งเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ลูกชายยอมรับกับตนว่าก่อเหตุปล้นรถขนเงินจริง จึงอยากให้มามอบตัวกับตำรวจ ซึ่งลูกชายเองก็พร้อมจะเข้ามอบตัว แต่ยังไม่รู้ว่าลูกชายจะกลับไทยเมื่อไร

พล.ต.ท.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะสอบสวนนางชนิตา ในฐานะพยาน นอกจากนี้ยังสืบทราบว่านายศาสตราได้ซื้อรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ป้ายแดง ไปจอดไว้ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนหลบหนีไปญี่ปุ่น ซึ่งตนจะนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึด รวมทั้งจะไปตรวจค้นบ้านของนางชนิตา ย่านบางเขน เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม

ต่อมาเวลา 00.30 น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล, พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผู้บังคับการกองสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียนป้ายแดง อ-7125 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ภายในอาคารจอดรถ 1 ชั้นบี ล็อกที่ c-23 ท่าอากาศยานดอนเมือง

จากการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบเอกสารการซื้อขายรถจากศูนย์จำหน่ายย่านบางขุนเทียน เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ซื้อด้วยเงินสดมูลค่ากว่า 900,000 บาท ทราบว่านายศาสตราใช้ชื่อ นางชลิตา เป็นผู้ครอบครอง รวมถึงนามบัตรร้านขายแหวน และบัตรทางด่วนอีซี่พาส ซึ่งของกลางทั้งหมดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบในคดี

นอกจากนี้ยังขอให้ผู้ที่ครอบครองทรัพย์สินที่ได้มาจากการก่อเหตุให้รีบนำไปคืนได้ที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจใกล้เคียง หรือมอบคืนโดยตรงที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล มิเช่นนั้นจะถือว่ามีความผิด และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน - สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook